7M SPORTS เพิ่มเป็นไซต์โปรด 
กระทิงเฮ!ขวิดอินทรีเหล็ก1-0 ปูโยลโขกฉะออรันเย่นัดชิง
08/07/2010  ที่มา  sportfm
ขนาด: A A A

"กระทิงดุ" สเปน เอาชนะ "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน 1-0 จากประตูโทนของ ปูโยล ส่งผลให้ ทะลุผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศกับ "ออรันเย่" ฮอลแลนด์ ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2553 นี้ เวลา 01.30 น.


การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย ของวันพุธที่ 7 กรกฎาคม ทำการแข่งขันในเวลา 01.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ คู่ที่สอง ระหว่าง"อินทรีเหล็ก" เยอรมัน พบกับ "กระทิงดุ" สเปน ทำการแข่งขันที่ สนาม เดอร์บาน สเตเดี้ยม เมือง เดอร์บาน ประเทศ แอฟริกาใต้

เยอรมัน นั้น ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ หลังจากถล่ม "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนตินา มาได้ 4-0 ในรอบแปดทีมสุดท้าย โดยก่อนหน้านั้นผ่าน "สิงโตคำราม" อังกฤษ มาได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แบบสบายๆ ด้วยสกอร์ 4-1 ส่วน "กระทิงดุ" สเปน ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ หลังจาก เอาชนะ ปารากวัย 1-0 ในรอบแปดทีมสุดท้าย ก่อนหน้านั้นผ่าน โปรตุเกส มาได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยสกอร์เดียวกัน 1-0

วันนี้ เยอรมัน ของ โยอัคคิม เลิฟ จัดตัวผู้เล่นลงสนามมาเต็มสูบ ขาดเพียงตัวหลักที่ติดโทษแบนเพียงคนเดียวคือ โธมัส มุลเลอร์ โดยส่งเอา พิออเตอร์ โทรซอฟสกี้ ลงมาทำหน้าที่แทนในตำแหน่งริมเส้นทางกราบขวา ในขณะที่ตัวหลักอื่นๆ ยังลงทำหน้าที่ครบครัน โดยแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, เมซุต โอซิล และ ลูคัส โพดอลสกี้ ที่คอยสนับสนุนอยู่หลัง โคลเซ่ ศูนย์หน้าตัวเป้า

ในขณะที่ สเปน ของ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ วันนี้เปลี่ยนจากระบบหน้าคู่ มาใช้หน้าเดี่ยว โดยดร็อป เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ยังไม่สามารถทำประตูได้ใน เวิลด์คัพ ครั้งนี้ โดยส่ง เปโดร โรดริเกซ ลงมาทำเกมอยู่ข้างหลัง บีย่า ควบคู่กับแนวรุกตัวหลักทั้ง อันเดรส อิเนียสต้า และ ชาบี เอร์นานเดซ ที่เป็นแผงแนวรุกจาก บาร์เซโลน่า ทั้งสิ้น

เริ่มเกมมาไม่นาน ในนาทีที่ 4 ก็มาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวกับเกมขึ้น เมื่อมีแฟนบอลตัวป่วนวิ่งถือ "วูวูเซล่า" ลงมาในสนาม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะหยิบตัวออกไปได้

น.7 เปโดร โรดริเกซ ได้โอกาสผ่านเข้าไปในกรอบเขตโทษ บีย่า ได้จังหวะซัดด้วยขวา แต่ มานูเอล นอยเออร์ เชฟไว้ทัน

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมต่างไม่สามารถเล่นเกมของตนเองได้ บอลส่วนใหญ่อยู่บริเวณกลางสนาม และไม่ได้สร้างสรรค์โอกาสยิงอย่างชัดเจน

จนมาในนาทีที่ น.32 ลาห์ม ได้โอกาสลากจี้ขึ้นมาทางกราบขวาก่อนจ่ายเข้าในกรอบเขตโทษ โทรซอฟสกี้ ได้ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา แต่ อิเกร์ กาซิยาส พุ่งปัดออกหลังไปได้

น.45 ช่วงท้ายของครึ่งแรก ทั้งสองทีมมีโอกาสได้ประตูขึ้นนำ โดยเป็น เยอรมัน ที่มีโอกาสก่อน จากจังหวะที่ โอซิล ลากตะลุยทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะถูก เซร์คิโอ รามอส เบียดล้มลง วิคเตอร์ คาสไซ ตุลาการในสนามจาก ฮังการี ไม่ได้ว่าอะไร และจากจังหวะต่อเนื่อง เป็นเกมสวนกลับของ สเปน และได้โอกาสยิงจากนอกกรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 30 หลา ของ เปโดร บอลพุ่งแรงตรงกรอบน่ากลัว แต่ว่า นอยเออร์ ยังอยู่ตรงที่ตรงเวลา คว้าบอลเอาไว้ได้

จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังไม่สามารถทำอะไรกันได้ เสมอกันอยู่ 0-0

เริ่มต้นครึ่งหลังมาไม่นาน น.50 เป็น สเปน ที่มีโอกาสได้ซัดก่อน จากจังหวะที่ เปโดร ลากเลื้อยทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนปาดเข้ากลางให้ อลอนโซ่ วิ่งเข้ามาซัดตูมเดียวด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งออกข้างไปนิดเดียว

หลังจากนั้นไม่นาน นาทีที่ 52 โยอัคคิม เลิฟ ก็มาทำการเปลี่ยนตัวเป็นคนแรกของเกมจนได้ โดยเอา เยโรม บัวเต็ง ที่ช่วงต้นครึ่งหลัง โดน เปโดร เด็กจรวดนรกของ สเปน หลอกหัวทิ่มไปหลายครั้ง ออก และเอา มาร์เซลล์ ยานเซ่น ลงมาเล่นเกมรับทางฝั่งซ้ายแทนที่

น.55 ดาบิด บีย่า ดาวซัลโว ได้โอกาสซัดจังๆ จากการรับบอลจาก อีเนียสต้า ในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนหักเข้าขวาแล้วปั่น แต่บอลติดไซด์มากไปหน่อย ออกข้างไปนิดเดียว

น.58 สเปน มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ อีเนียสต้า หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย ก่อนลากจี้ถึงสุดเส้นหลังแล้วปาดเข้ากลาง ดาบิด บีย่า รออยู่หน้าประตูโล่งๆ เข้าไม่ถึงบอลในจังหวะสุดท้าย พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย

น.69 โทนี่ โครส ได้ซัดเหน่งๆ หลังจากลงแทน โทรซอฟสกี้ มาไม่กี่นาที จากลูกเปิดทางฝั่งซ้ายของ โพดอลสกี้ แต่ลูกยิงด้วยขวาของ โครส ถูกปฎิเสธโดย กาซิยาส

น.73 ในที่สุดประตูแรกของเกมก็มาเกิดขึ้นจนได้ จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ชาบี เปิดเข้ามาตรงจุดนัดพบ เป็น ปูโยล ที่วิ่งเข้ามาโขกเต็มกบาลผ่านตัว นอยเออร์ ไปอย่างสวยงาม ส่งผลให้ สเปน ขึ้นนำ เยอรมัน 1-0

น.84 สเปน น่าจะได้ประตูออกนำห่าง 2-0 เหลือเกิน จากจังหวะที่ เปโดร หลุดเดี่ยวในจังหวะสวนกลับ ลากเลื้อยขึ้นมาในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา แต่ว่า เจ้าหนู "เปโดร" ไม่ยอมส่ง ให้ ตอร์เรส ที่ว่าง ยืนรอบอลแบบโล่งๆ ก่อนจะล็อกบอลหลบแล้วล้มไปเองอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมพยายามบุกกันอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถทำอะไรกันได้เพิ่มเติม จบเกม สเปน เอาชนะ เยอรมัน 1-0 จากประตูโทนของ ปูโยล ส่งผลให้ ทะลุผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศกับ ฮอลแลนด์ ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2553 เวลา 01.30 น. นี้

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ชาบี เอร์นานเดซ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
ทีมชาติ เยอรมัน ระบบ 4-2-3-1

ผู้รักษาประตู : มานูเอล นอยเออร์
กองหลัง : ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), อาร์เน่ ฟรีดริช, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, เยโรม บัวเต็ง (มาร์เซลล์ ยานเซ่น 52)
กองกลาง : ซามี่ เคดิร่า (มาริโอ โกเมซ 81), บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, พิออเตอร์ โทรซอฟสกี้ (โทนี่ โครส 62), เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้
กองหน้า : มิโรสลาฟ โคลเซ่
ผู้จัดการทีม : โยอัคคิม เลิฟ

ทีมชาติ สเปน ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : อิเกร์ กาซิยาส (กัปตันทีม)
กองหลัง : เซร์คิโอ รามอส, เกราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล, โจน กัปเดบิล่า
กองกลาง : เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่ (คาร์ลอส มาร์เชน่า 90), อันเดรส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดซ, เปโดร โรดริเกซ (ดาบิด ซิลบา 85)
กองหน้า : ดาบิด บีย่า (เฟร์นานโด ตอร์เรส 81)
ผู้จัดการทีม : บิเซนเต้ เดล บอสเก้

ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)

เมือง&สนามบอล
ตารางคะแนน
  • A
  • B
  • C
  • D
  • E
  • F
  • G
  • H
    หากไม่มีการระบุเวลาการแข่งขันใด ให้ยึดเวลาของ GMT+0800 เป็นหลักเท่านั้น
    เวบไซด์นี้สงวนลิขสิทธิ์โดย www.7mth.com Copyright © 2003 -