โรบินโญ่ ซัลโวให้ บราซิล ออกนำตั้งแต่ต้นครึ่งแรก แต่ครึ่งหลัง เมโล่ พลาดท่าทำเข้าประตูตัวเองแถมโดนใบแดง "สไนจ์เดอร์" จะสวมบทฮีโร่ขวิดประตูชัย ให้ ฮอลแลนด์ พลิกเอาชนะไปได้ 2-1 ลิ่วรอบรองทีมแรก ศึกบอลโลกฉบับกาฬทวีป

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ประจำค่ำคืนที่ 2 ก.ค. ที่สนาม เนลสัน แมนเดล่า เบย์ สเตเดี้ยม เมือง พอร์ท อลิซาเบธ ประเทศแอฟริกาใต้  ประเดิมแข้งรอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง "แซมบ้า" บราซิล กับ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์

"แชมป์โลก 5 สมัย"  คว้าแชมป์กลุ่มจี มาได้ในรอบแรก และสามารถหักปราการด่านสำคัญอย่าง "ชิลี" ทีมอันดับ2โซนอเมริกาใต้ลงไปได้ 3-0 ส่วนฝั่ง "ราชันไร้มงกุฏ" ยังรักษาสถิติชนะรวดในศึกเวิลด์คัพครั้งนี้ไว้ได้ หลังเก็บ 9 คะแนนเต็มคว้าแชมป์กลุ่มอี ในรอบแรก และล่าสุดเชือดนิ่ม "สโลวาเกีย" 2-1 ลิ่วรอบ 8 ทีมสุดท้ายผ่านเข้ารอบได้ในที่สุด

คาร์ลอส ดุงก้า กุนซือมาดเนี๊ยบ ได้  เฟลิเป้ เมโล่ มิดฟิลด์คนสำคัญจากยูเวนตุสสลัดอการบาดเจ็บลงยืนประจำการคู่กับ จิลแบร์โต้ ซิลวา แทนที่  รามิเรส ที่โดนโทษแบน  ส่วน  ดาเนี่ยล อัลเวส ยังคงได้โอกาสทำเกมรุกฝั่งขวาแทนที่  เอลาโน่ ที่บาดเจ็บตั้งแต่รอบแรก และสามประสานแนวรุก กาก้า,โรบินโญ่ และ หลุยส์ ฟาเบียโน่ เดินหน้าล่าตาข่ายเหมือนเดิม

ด้าน เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ จัพทัพชุดเดิมที่เฉือนชัยแข้งสโลวัก 2-1 ลงสนามอย่างครบครัน โดยยังให้โอกาส โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกจากค่ายปืนใหญ่ยืนเป็นหน้าเป้าตัวความหวังเช่นเดิม แม้ที่ผ่านมา 4 นัด เจ้าตัวเพิ่งกดไปแค่ 2 เม็ดเท่านั้น โดยมีทั้ง เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, เดิร์ก เค้าท์,อาร์เยน ร็อบเบน ยอดมิดฟิลด์จาก3ทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปลงปั้นเกมอยู่ด้านหลัง

เริ่มเกมการแข่งขันมาได้เพียง 7 น.  จากจังหวะวางบอลยาวมาที่หน้าประตูให้ อัลเวส ทะลุเข้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วตวัดไปที่หน้าปากประตูให้ โรบินโญ่ เข้าชาร์ทบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้า ถัดมาเพียง 3 น. แซมบ้าขึ้นนำ! เฟลิเป้ เมโล่ ครองบอลที่วงกลมกึ่งกลางสนาม แล้วไหลทะลุช่องผ่านคู่เซ็นเตอร์แบ็กฮอลแลนด์ให้ โรบินโญ่ วิ่งเข้าซัดด้วยขวาผ่านตัว มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก เข้าประตู ส่ง บราซิลขึ้นนำ 1-0

ดานี่ อัลเวส แลบพาบอลเข้าไปถึงเขตโทษจ่ายไปที่เสาไกล โรบินโญ่ วิ่งเข้ามาแปส่งบอลกองก้นตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า

น.14 จอห์น ไฮติงก้า รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม หลังจากไปขัดขา หลุยส์ ฟาเบียโน่  ล้มลงไปกองกับพื้นต่อหน้าต่อตาผู้ตัดสินหน้าเขตโทษระยะประมาณ 40 หลา  อัลเวส รับหน้าที่สังหารฟรีคิก ทว่าหลุดกรอบออกหลัง

น.17 ฮอลแลนด์ ได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องมาทางขวา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ วิ่งเข้ามาซัดด้วยซ้ายบอลเหินข้ามคานออกหลัง

น. 25 อัลเวส เปิดแรงจากกราบซ้ายเข้ามาที่หน้าประตู ฮวน เติมเกมรุกขึ้นมากระโดดซัดด้วยเท้าขวาข้ามคาน ถัดมา 3 น. บราซิลได้ฟรีคิกทางกราบขวาบริเวณมุมธง อัลเวส เปิดด้วยซ้าย ฟาเบียโน่ ขึ้นขวิดเต็มๆ ข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น

น.32 โรบินโญ่ โชว์ลีลาบราซิลเลี่ยน ลากเลื้อยทำเกมริมเขตโทษฝั่งซ้าย ไหลต่อให้ ฟาเบียโน่ ตอกส้นจังหวะเดียวมาถึง กาก้า จับบอลหนึ่งจังหวะแล้วบรรจงปั่นด้วยขวา บอลพุ่งโค้งกำลังจะฮุกเสียบใต้คาน มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ลอยตัวปัดข้ามคานหวุดหวิด

น.35 ฮวน ไปทำฟาวล์ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หน้าเขตโทษระยะประมาณ 38 หลา  เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ วิ่งเข้าซัดเต็มแรงด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเป็นจรวดเข้าหาปากประตู มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ยืนตำแหน่งดีรับเข้าซองสบาย ถัดมา 3 น. มิเชล บาสโต๊ส  ไปสกัดเข้าข้างหลัง ร็อบเบน ยูอิจิ นิชิมูร ผู้ตัดสินจากแดนปลาดิบควักใบเหลืองแจกทันที

ช่วงท้ายครึ่งแรก ไมค่อน เติมเกมรุกหลุดเข้าเขตโทษแล้วสับไกเต็มแรงด้วยขวา บอลพุ่งกำลังจะเสียบเสาแรก มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ปัดปลายมืออกหลัง จบครึ่งแรก บราซิล 1-0 ฮอลแลนด์

เกมครึ่งหลังผ่านมาถึงน.4  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  ไหลให้ เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ ซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่โดนไม่เต็มเท้า บอลกระดอนอกหลัง กระทั่งน.53 แชมป์โลก5สมัยตกม้าตาย! ร็อบเบน ครองบอลที่ริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วไหลลตัดให้ เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ เปิดโค้งเข้ากดดันที่หน้าปากประตู จนทำให้ทั้ง  ชูลิโอ เซซ่าร์  และ  เฟลิเป้ เมโล่ ต้องลอยตัวพุ่งเข้าหาบอลพร้อมกัน ก่อนที่บอลแฉลบศรีษะ เฟลิเป้ เมโล่ เข้าประตู  ส่งให้ ฮอลแลนด์ ตามตีเสมอได้สำเร็จ 1-1

น.61 อัลเวส ลองส่องไกลห้นาเขตโทษระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งหลุดเสาสอง ถัดมา 1น. บราซิล มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่น ถอดเอา มิเชล บาสโต๊ส  ออก แล้วส่ง กิลแบร์โต้ เมโล ลงสนามแทน และน.64 ไนเจล เดอ ยองก์ ไปตัดฟาวล์ใส่ โรบินโญ่ รับใบเหลืองเป็นคนที่2ของทีม ส่งผลให้หากทีมผ่านเข้ารอบเจ้าตัวจะหมดสิทธิ์ลงสนาม

น. 66  ไมค่อน เปิดจากฝั่งขวาเข้าหาประตู  เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล โขกสกัดมาเข้าทางปืน กาก้า ยิงสวนบอลพุ่งหลุดกรอบ 

 น.68 อัศวินสีส้มพลิกขึ้นนำ! ร็อบเบน โยนลูกเตะมุมฝั่งขวามาที่เสาแรก เดิร์ก เคาท์ โหม่งเช็ดต่อมาให้ เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ ขวิดเหน่งๆระยะไม่ถึง10หลา บอลพุ่งสู่ก้นตาข่าย ฮอลแลนด์ 2-1 บราซิล

น.73 แซมบ้า เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ เฟลิเป้ เมโล่ คุมอารมณ์ไม่อยู่ ไล่เหยียบสกัด ร็อบเบน อย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสินไม่รีรอควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที  น.77 ดุงก้า ตัดสินใจถอด หลุยส์ ฟาเบียโน่ ออก แล้วส่ง นิลมาร์  ศูนย์หน้าจากบียาร์เรอัลที่มีความสเร็วลงมาแทนที่

น.84 กาก้า ลากบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย สับไกด้วยขวา แต่ จอห์น ไฮติงก้า ตามบล็อกออกหลังได้ทัน และน.85 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ถูกเปลี่ยนออกและเป็น คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ได้โอกาสลงล่าตาข่ายแทน น.89 อัลเวส ได้โอกาสซัดฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องมาทางขวา ทว่าซัดไปติดกำแพงแบบไม่ต้องลุ้น

หลังจากนั้น บราซิล พยายามทำเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่ไม่สามรถเจาะแนวรับ  ฮอลแลนด์  ได้ จบเกมการแข่งขัน ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายพลิกเอาชนะ บราซิล ไปได้ 2-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เป็นทีมแรก รอพบผู้ชนะระหว่าง อุรุกวัย กับ กานา ที่จะลงสนามในเวลา 01.30 คืนนี้ ส่วน บราซิล ต้องอกหักตกรอบ 8 ทีม เป็นครั้งที่2ติดต่อกัน

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
ฮอลแลนด์  : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก - โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, จอห์น ไฮติงก้า, โยริส มาไธจ์เซ่น, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล - มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ยองก์, อาร์เยน ร็อบเบน , เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, เดิร์ก เค้าท์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ผู้จัดการทีม : เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์

บราซิล ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ (กัปตันทีม), ฮวน, มิเชล บาสโต๊ส - จิลแบร์โต้ ซิลวา,เฟลิเป้ เมโล่  - ดาเนี่ยล อัลเวส, กาก้า , โรบินโญ่  - หลุยส์ ฟาเบียโน่
ผู้จัดการทีม : คาร์ลอส ดุงก้า