เชซาเร่ ปรันเดลลี่ กุนซือมากฝีมือ จรดปากกาเซ็นสัญญา 4 ปี กับสหพันธ์ลูกหนังแดนมะกะโรนี เพื่อเข้ากุมบังเหียนทัพ "อัซซูรี่" อิตาลี แทนที่ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยจะประเดิมนัดแรกด้วยการเตะอุ่นแข้งกับคู่แข่งที่ยังไม่ได้ประกาศยืนยันในเดือนสิงหาคมนี้
เชซาเร่ ปรันเดลลี่ อดีตเทรนเนอร์ ฟิออเรนติน่า ทีมแกร่งในศึก กัลโช่ เซเรีย อา ตกลงเซ็นสัญญา 4 ปี กับ สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (เอฟไอจีซี) เพื่อเข้ารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติอิตาลี ต่อจาก มาร์เชลโล่ ลิปปี้ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
โค้ชวัย 52 ปี ได้เข้าร่วมการประชุมที่สำนักงานใหญ่เอฟไอจีซี ในกรุงโรม เมื่อบ่ายวันพุธ ก่อนจะไปทานมื้อเที่ยงกับผู้บริหารบางคน จากนั้นเขาก็กลับมา และเซ็นสัญญาดังกล่าวซึ่งทำให้เขามั่นใจได้ว่าจะมีทีมงานสต๊าฟฟ์ชุดเดียวกับที่ "ม่วงมหากาฬ"
ปรันเดลลี่ จะได้รับการเปิดตัวรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการต่อหน้าสื่อแดนมะกะโรนีในวันพฤหัสบดีนี้ โดยเขามีกำหนดเปิดแค้มป์ฝึกซ้อมในวันที่ 9 สิงหาคม 2 วันก่อนจะลงเตะกระชับมิตรที่สนาม คราเว่น ค็อตเทจ ของสโมสรฟูแล่ม ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่ยังไม่มีประกาศยืนยันคู่แข่ง
ขณะเดียวกัน อันโตนิโอ คาบรินี่ ตำนานแบ็กซ้ายของอิตาลี และ ยูเวนตุส ออกมายืนยันว่าพร้อมตอบรับโอกาสจะได้ร่วมงานกับ ปรันเดลลี่ เพื่อนซี้ หลังจากมีรายงานข่าวหลายฉบับระบุว่าเขาอาจได้เป็นส่วนหนึ่งของสต๊าฟฟ์โค้ชชุดใหม่ของทัพอัซซูรี่ "ผมคงดีใจมาก หากได้ทำงานร่วมกับ เชซาเร่ และ ทำงานให้ทีมชาติ มันต้องยอดเยี่ยมแน่ แต่นี่ยังเป็นเพียงข่าวลือ เราได้แต่รอดูต่อไป"
อดีตแข้งผู้พลาดจุดโทษในเวิลด์ คัพ 1982 รอบชิงชนะเลิศ ยังได้พูดถึงแนวทางที่ ปรันเดลลี่ จะเข้ามากอบกู้สถานการณ์ หลังจาก อิตาลี ต้องเสียหน้าตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ทั้งที่เป็นแชมป์เก่าจาก 4 ปีก่อน "ปรันเดลลี่ รู้ว่าต้องทำอะไร และ รู้ว่าต้องตัดสินใจอะไรเพื่อปรับโฉมทีม ในฤดูกาลใหม่ เขาคาดว่านักเตะดาวรุ่งบางคนจะเติบโตขึ้น และ เล่นดีขึ้น เพื่อให้เขาได้ลองใช้งาน"
อย่างไรก็ตาม คาบรินี่ ที่ทำงานเป็นนักวิจารณ์เกมในอิตาลีเป็นส่วนใหญ่ ยืนกรานว่า ปรันเดลลี่ ต้องได้รับความช่วยจากบรรดาทีม เซเรีย อา มากกว่านี้ "สโมสรอิตาเลียนจำเป็นต้องเริ่มลงทุนให้นักเตะดาวรุ่งของเราเองมากกว่าจะไปจ่ายเงินซื้อนักเตะดาวรุ่งต่างชาติ ฟุตบอลอิตาเลียนจำเป็นต้องเข้าใจว่า หากหวังจะกลับไปสู่จุดสูงสุดในระดับสโมสรและทีมชาติ พวกเขาก็ต้องเน้นภาคเยาวชน"
ปี | ชนะเสิศ | รองชนะเสิศ | อันดับ 3 |
2006 | อิตาลี | ฝรั่งเศส | เยอรมนี |
2002 | บราซิล | เยอรมนี | ตุรกี |
1998 | ฝรั่งเศส | บราซิล | โครเอเชีย |
1994 | บราซิล | อิตาลี | สวีเดน |
1990 | เยอรมนี | อาร์เจนตินา | อิตาลี |
1986 | อาร์เจนตินา | เยอรมนี | ฝรั่งเศส |
1982 | อิตาลี | เยอรมนี | โปแลนด์ |
1978 | อาร์เจนตินา | ฮอล์แลนด์ | บราซิล |
1974 | เยอรมนี | ฮอล์แลนด์ | โปแลนด์ |
1970 | บราซิล | อิตาลี | เยอรมนี |
1966 | อังกฤษ | เยอรมนี | โปรตุเกส |
1962 | บราซิล | เชโกสโลวาเกีย | ชิลี |
1958 | บราซิล | สวีเดน | ฝรั่งเศส |
1954 | เยอรมนี | ฮังการี | ออสเตรีย |
1950 | อุรุกวัย | บราซิล | สวีเดน |
1938 | อิตาลี | ฮังการี | บราซิล |
1934 | อิตาลี | เชโกสโลวาเกีย | เยอรมนี |
1930 | อุรุกวัย | อาร์เจนตินา | อเมริกา |