7M SPORTS เพิ่มเป็นไซต์โปรด 
อัศวินสีส้มเฉือนสโลวัก2-1ร็อบเบน-สไนเดอร์ซัดลิ่ว8ทีม
28/06/2010  ที่มา  sportfm
ขนาด: A A A

กังหันลิ่ว8ทีมบอลโลกฉบับกาฬทวีป! ฮอลแลนด์ บุกหนักทำได้แค่เฉือน สโลวาเกีย 2-1 "ร็อบเบน" ควงคู่ "เวสลี่ย์ สไนเดอร์ " พังประตู ก่อนที่ช่วงทดเจ็บ "วิตเท็ค" จะสังหารจุดโทษทำประตูปลอบใจให้ชาวสโลวัก


การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ประจำค่ำคืนที่ 28 มิ.ย. ที่ โมเซส มาบิดา สเตเดี้ยม หรือ เดอร์บัน สเตเดี้ยม  เมือง เดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่ที่ 5 เป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์  กับ "จอมล้มยักษ์" สโลวาเกีย

ฮอลแลนด์ ผ่านเข้ารอบมาด้วยผลงานสุดบรรเจิด ถือเป็น 1 ใน 2 ทีม ที่เก็บชัยในรอบแรกได้ทั้ง 3 นัด ทั้ง  ชนะ แคเมอรูน 2-1 , ชนะ ญี่ปุ่น 1-0 , ชนะ เดนมาร์ก 2-0 ส่วน สโลวาเกีย เพิ่งจัดการเขี่ย ขุนพล "อัซซูรี่" อดีตแชมป์โลก2006 ร่วงรอบแรกอย่างพลิกความคาดหมาย ทำให้ผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอฟ ด้วยผลงาน  ชนะ อิตาลี 3-2, แพ้ ปารากวัย0-2,เสมอ นิวซีแลนด์ 1-1

เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ไม่มีปัญหาสภาพทีมแม้แต่จุดเดียว เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล กลับมาทวงแบ็กขวาตัวจริงคืนจาก คาลิด บูห์ลารูช แนวรุกริมเส้นตัดสินใจเลือใช้ อาร์เยน ร็อบเบน ลงลากเลื้อยทำเกม ส่วน ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท สามารถเรียกความฟิตได้ทันแต่ต้องออกสตาร์ทในม้านั่งสำรอง
ด้าน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าปืนใหญ่ ยังยึดตัวจริงต่อไปแม้จะยิงได้แค่ประตูเดียวใน 3 เกมที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเพลย์เมกเกอร์ตัวทีเด็ดอย่าง เวสลี่ย์ สไนเดอร์ จากอินเตอร์ มิลาน ที่คว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากฟีฟ่าใน 2 เกมแรกที่ชนะ เดนมาร์ก และ ญี่ปุ่น ที่ยังคงเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนเกมรุก

วลาดิเมียร์ ไวส์  ไม่มี ซเดโน่ สเตอร์บา ที่ติดโทษแบน หลังสะสมใบเหลืองครบตามกำหนด โชคดีที่ได้ ยูราจ คุชก้า ผ่านการทดสอบความฟิตลงยืนมิดฟิลด์คู่กลางกับ มาเร็ค ฮัมซิค ส่วนเกมริมเส้นซ้ายขวาเป็นหน้าที่ของ มิโรสลาฟ สต็อช และ วลาดิเมียร์ ไวส์ โดยที่คู่หน้า โรเบิร์ต วิตเท็ค ดาวยิงฟอร์ร้อน!จับคู่ล่าตาข่ายกับ อีริค เยนดริเช็ค

เริ่มเกมการแข่งขันครึ่งเวลาแรก สโลวาเกีย ใน ชุดขาวทั้งชุดเป็นฝ่ายเริ่มเขี่ยบอลก่อน โดยบุกจากขวาไปซ้าย ส่วน ฮอลแลนด์ สวมชุดเก่ง เสื้อส้ม กางเกงดำ และเพียงน. 2 วลาดิเมียร์ ไวส์ จรวดทางเรียบจากทัพเรือใบสีฟ้าครองบอลหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนหาจังหวะไหลเข้ากลางให้  เอริค เยนดริเซ็ค สบโอกาสซัดเต็มข้อ บอลพุ่งแรงข้ามคานไม่ไกล น.6 ฮัมซิค สับไกหน้าเขตโทษ แต่บอลก็หลุดกรอบไปอีก

น.7 เดิร์ก เคาท์ ทำเกมบุกขึ้นมาทางกราบซ้าย แล้วตัดสินใจยกบอลเข้าไปลุ้นหน้าปากประตู โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลอยตัวขึ้นโขกเต็มหัว บอลเหินข้ามคาน ถัดมา 4 น.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ไหลจากหน้าเขตโทษทะลุเข้าไปทางฝั่งซ้ายให้  เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ แปด้วยเท้าขวา แยน มูช่า  ปิดมุมดีรับเข้าซอง

น.18  ร็อบเบนแผลงฤทธิ์! เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ วางบอลยาวจากหน้าปากประตูตัวเองมาให้ อาร์เยน ร็อบเบน ทำเกมขึ้นมาหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย ลากตัดเข้ากลางตามสไตล์ถนัด ก่อนตัดสินใจหักข้อสับไกด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม ส่ง "อัศวินสีส้ม" ขึ้นนำ 1-0

น.31 ร็อบเบน รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม เมื่อตั้งใจยกมือขวางลูกเปิดของ มาเร็ค ฮัมซิค อย่างชัดเจน

เกมผ่านครึ่งชั่วโมงแรกเป็นฝั่ง ฮอลแลนด์ ที่สามารถครองบอลได้ถึง 53 เปอร์เซ็นต์ ยิงเข้ากรอบไป 2 ครั้ง  ส่วน สโลวาเกีย ทำได้เพียง 47 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และยังยิงไม่เข้ากรอบแม้แต่ครั้งเดียว

น.41 จากจังหวะสวนกลับเร็ว  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลากบอลเร็วขึ้นมายิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งตรงตัว แยน มูช่า รับเข้าซองสบาย ช่วงท้ายเกมยังคงเป็น ฮอลแลนด์ ที่ทำเกมรุกเข้าใส่ได้มากกว่า จนน.44 ร็อบเบน ครองบอลหน้าเขตโทษแล้วตอกส้นออกทางขวาให้ มาร์ค ฟาน บอมเมล ที่วิ่งเติมเกมขึ้นมาเปิดจากสุดเส้นหลังมาที่เสาแรก  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ วิ่งเข้าชาร์ทันที ทว่ายังคลำเป้าไม่เจอ บอลพุ่งเฉียดเสา จบครึ่งแรก "อัศวินสีส้ม" ออนำ "จอมล้มยักษ์" 1-0

เกมครึ่งหลังเดินทางมาถึงน.50 ร็อบเบน ได้บอลทางกราบขวาอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจลากตัดเข้ากลางสับไกใกล้จัดเดิมที่ทำประตูแรก แต่ครั้งนี้ บอลพุ่งหลุดกรอบ ถัดมา 1 น. ได้ลุ้นอีกครั้งในจังหวะที่ ร็อบเบน ลากตัดเข้าเขตโทษด้านซ้าย เปิดเรียดเข้ากลางปากประตู โยริส มาไธจ์เซ่น ชาร์ทเต็มเท้า ทว่า แยน มูช่า ไม่พลาดทุบทิ้งออกมาได้หวุดหวิด

น. 59  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  รับหน้าที่สังหารฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องมาทางฝั่งขวา ระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งโค้งกำลังจะมุดเสียบเสาไกล แยน มูช่า นายด่านสโลวักลอยตัวทุบบอลทิ้งออกมาได้ ก่อนที่จะโดน เดิร์ค เคาท์ เข้าชาร์ทจนได้รับบาดเจ็บต้องพักปฐมพยาบาลประมาณ 1 น.

น.62 ยูราจ คุชก้า สับไกจากบริเวณวงกลมกึ่งกลางสนาม บอลพุ่งแรงเข้าหาประตู  มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ต้องล้มตัวทุบบอลทิ้งออกหลัง

น.67 มิโรสลาฟ สต็อช ลากบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาตัดเข้ากลางแล้วตัดสินใจยิงเร็วทันที มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก เซฟไว้ได้ จากนั้น วิลเทจ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวกับ มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก บริเวณจุดโทษ แต่ยิงไม่ดี บอลพุ่งตรงตัว สเตเคเลนเบิร์ก  ยกมือทุบบอลทิ้งออกมาอย่างน่าเหลือเชื่อ

น.71 อาร์เยน ร็อบเบน ที่วันนี้มีโอกาส ยิง 2 ครั้ง เข้ากรอบทั้ง 2 ครั้ง ทำ 1 ประตู ถูกเปลี่ยนตัวออก แล้วส่ง เอลเยโร่ เอเลีย ลงมาเล่นแทน ส่วนฝั่ง สโลวาเกีย ก็จัดการส่ง คามิล โคปูเน็ค ที่ทำประตู 3-1 ฝังอิตาลี ในเกมที่ผ่านมา ลงสนามแทน อีริค เยนดริเช็ค

น.73 เดิร์ก เคาท์ ยิงไกลหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเป็นจรวดเข้าหาปากประตู แยน มูช่า พุ่งเหยีดสุดตัวปัดทิ้งออกหลัง น.80 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ถูกเปลี่ยนตัวออก และเป็น "เดอะฮันเตอร์" คลาส แยน ฮุนเตลาร์  ที่ได้รับโอกาสล่าตาข่ายแทน

น.84 จากจังหวะวางบอลยาวขึ้นมาที่ริมเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เดิร์ก เคาท์ จับบอลรอจังหวะเปิดเรียดเข้ากลางให้ เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ วิ่งเข้าชาร์ทส่งบอลสู่ก้นตาข่าย  ฮอลแลนด์ นำห่าง 2-0

น.87 มาเร็ค ฮัมซิค และ ราโดสลาฟ ซาบาฟนิค ถูกเปลี่ยนออก และเป็น มาเร็ค ซาปารา  และ มาร์ติน ยาคุบโก้ ลงสนามแทน หลังจากนั้นเกมของ สโลวาเกีย ก็ยังไม่ดีขึ้น กลับกลายเป็น ฮอลแลนด์ที่ครองบอลได้มากกว่า กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ไปรวบข้อเท้า มาร์ติน ยาคุบโก้ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที โรเบิร์ต วิตเท็จ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดบอลพุ่งเสียบมุมขวา ให้ สโลวาเกีย ตามมาเป็น 1-2   จบเกม ฮอลแลนด์ เอาชนะ สโลวาเกีย ไปได้  2-1 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะของคู่ระหว่าง บราซิล - ชิลี ที่จะลงสนามในเวลา 01.30 คืนนี้

ผู้ตัดสิน : อัลเบอร์โต อุนเดียโน จาก สเปน

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
ฮอลแลนด์  : 4-2-3-1

ผู้รักษาประตู : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก - โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, จอห์น ไฮติงก้า, โยริส มาไธจ์เซ่น, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล - มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ยองก์, อาเยน ร็อบเบน , เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, เดิร์ก เค้าท์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

สโลวาเกีย : 4-4-1-1
ผู้รักษาประตู : แยน มูช่า - ปีเตอร์ เปคาริค, มาร์ติน สเคอร์เทล, แยน ดูริก้า, ราโดสลาฟ ซาบาฟนิค- วลาดิเมียร์ ไวส์, ยูราจ คุชก้า , มาเร็ค ฮัมซิค,  มิโรสลาฟ สต็อช  - โรเบิร์ต วิตเท็ค, อีริค เยนดริเช็ค

เมือง&สนามบอล
ตารางคะแนน
  • A
  • B
  • C
  • D
  • E
  • F
  • G
  • H
    หากไม่มีการระบุเวลาการแข่งขันใด ให้ยึดเวลาของ GMT+0800 เป็นหลักเท่านั้น
    เวบไซด์นี้สงวนลิขสิทธิ์โดย www.7mth.com Copyright © 2003 -