คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกดาวดังทีมชาติโปรตุเกส สุดงงกับการโดนใบเหลือง ในระหว่างเกมเจ๊ากับ ไอวอรี่โคสต์ 0-0 ยันตนไม่ได้ทำอะไรผิด มั่นใจ "ฝอยทอง" ยังมีโอกาสดีที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 2 ลั่นอีกไม่นานกลับมายิงประตูให้ทีมชาติได้อีกครั้งแน่
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดปีกตัวเก่งทีมชาติโปรตุเกส ยอมรับ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมตัวเองถึงได้รับใบเหลืองในนาทีที่ 21 ระหว่างเกมฟุตบอลโลก 2010 กลุ่ม จี นัดแรก ที่ "ฝอยทอง" เสมอกับ ไอวอรี่ โคสต์ 0-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยจังหวะนั้น "โด้" ไปมีปากเสียงกับ กีย์ เดเมล กองหลังจอมแกร่งของทัพ "ช้างดำ" หลังจากที่โดนเสียบล้มลงตรงบริเวณใกล้กรอบเขตโทษ ก่อนที่จะไปบ่นให้ผู้ตัดสินฟังและถูกจดชื่อเฉย
ซูเปอร์สตาร์จากสโมสร เรอัล มาดริด ซึ่งเป็น "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ในเกมนี้ กล่าวว่า "บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากที่ผู้ตัดสินจะไม่ให้ฟาวล์ มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนทีเดียว ผมเข้าใจว่า พวกเขาต้องปกป้องบรรดานักเตะที่มีทักษะสูงสุด แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ และเขาก็ให้ใบเหลืองกับผม เขาคงคิดว่า ผมพุ่งมั้ง ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ แต่ผมไม่อยากจะพูดถึงผู้ตัดสินหรอก ผมให้ความเคารพทุกๆ คำตัดสินอยู่แล้ว"
พร้อมกันนี้ โรนัลโด้ ยังแสดงความมั่นใจว่า โปรตุเกส ยังคงมีโอกาสดีที่จะตบเท้าเข้าสู่รอบ 2 โดยระบุว่า "เราไม่มีอะไรเสียหายจากผลเสมอครั้งนี้ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ อังกฤษ (เสมอกับ สหรัฐอเมริกา 1-1 ในเกมแรก) เช่นกัน แน่นอน ผมอยากจบเกมนี้ด้วยการได้ 3 แต้ม มากกว่าที่จะถูกรับเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แต่เราก็ต้องสู้ต่อไป ตอนนี้เราจะต้องเล่นกับ เกาหลีเหนือ และเราเองก็ยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 2"
ถึงแม้จะยิงประตูในนามทีมชาติไม่ได้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2009 แต่ โรนัลโด้ มั่นใจว่า อีกไม่นานจะกลับมายิงประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแน่ โดยเผยว่า "ประตูจะไหลมาเทมาอย่างแน่นอน มันจะมาตามธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งก็เหมือนกับที่นักเตะผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเคยบอกกับผมว่า ประตูก็เหมือนกับซอสมะเขือเทศ เมื่อคุณเขย่ามัน มันก็จะไหลออกมาเอง"
ขณะที่ คาร์ลอส เคยรอช โค้ชทีมชาติโปรตุเกส กล่าวชมลูกทีมคนเก่งว่า "วันนี้ โรนัลโด้ ทำได้เยี่ยมมากในฐานะกัปตันทีม เขาเป็นแบบอย่างที่ดีเอามากๆ เลย เขาทุ่มเทสุดๆ นักเตะที่ยิ่งใหญ่ทุกคนย่อมต้องเล่นทั้งรับและรุกอย่างที่เขาทำให้เห็นในวันนี้ โรนัลโด้ ตกเป็นเหยื่อของคำตัดสินที่ย่ำแย่ แต่เราเองก็ไม่อยากจะเห็นทีมเราโดนลงโทษด้วยใบเหลืองแบบนี้ และผมก็มั่นใจว่า เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก"
ปี | ชนะเสิศ | รองชนะเสิศ | อันดับ 3 |
2006 | อิตาลี | ฝรั่งเศส | เยอรมนี |
2002 | บราซิล | เยอรมนี | ตุรกี |
1998 | ฝรั่งเศส | บราซิล | โครเอเชีย |
1994 | บราซิล | อิตาลี | สวีเดน |
1990 | เยอรมนี | อาร์เจนตินา | อิตาลี |
1986 | อาร์เจนตินา | เยอรมนี | ฝรั่งเศส |
1982 | อิตาลี | เยอรมนี | โปแลนด์ |
1978 | อาร์เจนตินา | ฮอล์แลนด์ | บราซิล |
1974 | เยอรมนี | ฮอล์แลนด์ | โปแลนด์ |
1970 | บราซิล | อิตาลี | เยอรมนี |
1966 | อังกฤษ | เยอรมนี | โปรตุเกส |
1962 | บราซิล | เชโกสโลวาเกีย | ชิลี |
1958 | บราซิล | สวีเดน | ฝรั่งเศส |
1954 | เยอรมนี | ฮังการี | ออสเตรีย |
1950 | อุรุกวัย | บราซิล | สวีเดน |
1938 | อิตาลี | ฮังการี | บราซิล |
1934 | อิตาลี | เชโกสโลวาเกีย | เยอรมนี |
1930 | อุรุกวัย | อาร์เจนตินา | อเมริกา |