บราซิล เปิดสนามนัดแรกในเวิลด์ คัพ ฉบับกาฬทวีป ได้อย่างหืดจับ เมื่อเอาชนะ "โสมแดง" เกาหลีเหนือ ไป 2-1 ขึ้นนำจ่าฝูงในกลุ่ม จี

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ที่สนามเอลลิส พาร์ค สเตเดี้ยม ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประจำวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 53 เป็นการแข่งขันคู่ที่ 2 ในกลุ่ม จี ระหว่างขุนพล "เซเลเซา" ทีมชาติบราซิล แชมป์โลก 5 สมัยจากอเมริกาใต้ พบกับ ทีมชาติเกาหลีเหนือ ตัวแทนจากทวีปเอเชีย

เริ่มเกม เกาหลีเหนือ เป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน บุกจากซ้ายไปขวา มาในชุดสีแดงล้วน ส่วนทีมชาติบราซิล มาในชุดเก่ง เสื้อเหลือง กางเกงน้ำเงิน ถุงเท้าขาว แชมป์โลก 5 สมัยได้โอกาสลุ้นครั้งแรกในนาทีที่ 7 เอลาโน่ รับบอลจาก ไมค่อน ทางฝั่งขวา ก่อนลากตัดเข้าในแล้วยิงด้วยซ้าย บอลลอยโด่งข้ามคาน

น.12 ทีมชาติเกาหลีเหนือ มาในสไตล์ตั้งรับลึกแล้วรอสวนกลับ จนกระทั่งมีโอกาสลุ้นครั้งแรก เมื่อ ยอง แต-เซ กองหน้าตัวความหวังของทีม ลากบอลโซโล่เดี่ยวมาจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าเขตโทษ ก่อนยิงมุมแคบ บอลกระดอนเบาๆ เข้าซอง ชูลิโอ เซซาร์

น.16 แม้ว่าทัพเซเลเซา จะครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ มีโอกาสบุกหลายครั้งแต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ แล้วต้องมาโดนสวนกลับอีกครั้ง เมื่อ ชา จอง-ฮอค แบ็กขวา กระชากบอลขึ้นสูงก่อนที่จะลากตัดเข้าใน แล้วซัดด้วยซ้ายทันที บอลข้ามคาน

น.20 เกมรุกของบราซิล ค่อยๆ นวดไปเรื่อยๆ จังหวะต่อบอลเท้าสู่เท้า ยังเป็นอาวุธลับของบราซิล มีโอกาสงามๆ หลายครั้ง แต่จังหวะที่ได้ลุ้นมากสุดมาจากจังหวะที่ หลุยส์ ฟาเบียโน่ แทงบอลทะลุช่องให้กับ โรบินโญ่ หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่จะตวัดยิงเร็วด้วยขวาทันที บอลเบาเข้ามือ รี ยอง-กุ๊ก รับสบาย

น.27 บอลค่อนข้างที่จะวันเวย์อยู่ฝ่ายเดียว แต่ว่า บราซิล ยังหาช่องเจาะเข้าทำได้ยากเหลือเกิน แนวรับเกาหลีเหนือตั้งรับได้อย่างมีวินัย ต้องลองหันมายิงไกลดูบ้าง จากลูกที่ ไมค่อน ลุยขึ้นทางขวา แล้วยิงทันที บอลพุ่งเข้ากรอบ รี ยอง-กุ๊ก ต้องออกแรงทุบทิ้งออกหลังไป

น.35 เป็นอีกครั้งที่ บราซิล ต้องมาหวังพึ่งการยิงไกลจากแถวสอง หลังจากที่ถ่ายบอลไปมาอยู่หลายจังหวะ บอลไปจบที่ มิเชล บาสโต๊ส ซัดจากหน้าเขตโทา บอลแฉลบแผงหลังหลีเหลือออกหลังไป

ท้ายครึ่งแรก ยังเป็นบราซิล ที่บุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง มิเชล บาสโต๊ส หลุดไปถึงสุดเส้นฝั่งซ้ายก่อนหยอดมาทางเสาสอง แต่เพื่อนเติมขึ้นมาไม่ทัน ทำให้จบครึ่งแรก บราซิล ยังเสมอกับ เกาหลีเหนืออยู่ 0-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นแต่อย่างใด แต่ก็ยังเป็นบราซิล ที่บุกเข้าใส่ตั้งแต่เริ่มเสียงนกหวีด ได้จังหวะลุ้นจะแจ้งครั้งแรกในนาทีที่ 51 ปัก โชล-จิน ไปทำฟาวล์ กาก้า ตรงหน้าเขตโทษเสียฟรีคิกระยะอันตราย มิเชล บาสโต๊ส

น.55 ในที่สุดอดีตแชมป์โลก 5 สมัย ก็มาได้ประตูปลดแอกคลายความกดดันเสียที จากจังหวะที่ เอลาโน่ จ่ายบอลให้ ไมค่อน แบ็กจอมบุกที่เติมมาจากด้านหลัง หลุดไปถึงสุดเส้นฝั่งขวา แล้วซัดมุมแคบทันที บอลผ่านมือ รี ยอง-กุ๊ก เข้าเสาแรกไปอย่างเหลือเชื่อ ให้บราซิล ขึ้นนำ 1-0

น.61 พอได้ประตูขึ้นนำแล้ว บราซิล เริ่มเล่นกันอย่างผ่อนคลาย และต่อบอลง่ายขึ้นกว่าเดิม มาได้ลุ้นจากจังหวะที่ มิเชล บาสโต๊ส กระชากเข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะซัดด้วยซ้ายระยะ 30 หลา บอลพุ่งแรงเข้ากรอบ รี ยอง-กุ๊ก ต้องออกแรงเซฟ ทุบทิ้งออกมาอีกครั้ง

น.72 บราซิล เริ่มโชว์ความเหนือชั้นให้เห็นมาเป็นระยะๆ แล้วมาบวกประตูเพิ่มนำเป็น 2-0 ได้อีก จากจังหวะที่ โรบินโญ่ แทงบอลทะลุช่องอย่างแม่นยำให้ เอลาโน่ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาชนิดที่ว่าจับวาง จนมิดฟิลด์หัวหยิกวิ่งเข้ามาแปสวนผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสวยงาม

น.80 ทัพแซมบ้า เริ่มทยอยเปลี่ยนตัวสำรอง ส่ง ดาเนียล อัลเวส ลงแทน เอลาโน่ นาทีที่ 73 แล้วส่ง นิลมาร์ ลงมาแทน กาก้า ในนาทีที่ 78 และเพียงสัมผัสแรกของกองหน้าดาวรุ่งจากบียาร์เรอัล ก็ได้ยิงจากหน้าเขตโทษทันที่ แต่ก็ตรงตัว รี ยอง-กุ๊ก

น.89 และเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อ เกาหลีเหนือ อาศัยบอลยาวจากแดนหลัง วางให้กับ ยอง แต-เซ โขกชงคืนกลับหลังให้ จี ยุน-นัม จับบอลล็อกหลบ ลูซิโอ ก่อนจะซัดด้วยซ้ายผ่านมือ ชูลิโอ เซซาร์ เข้าไป สกอร์มาเป็น 1-2