ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ได้ลงมาดวลกับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่

เกมที่ถูกคาดหวังว่าจะสุดมันส์ กลายเป็นจืดชืด เมื่อ "ช้างดำ" และ "ฝอยทอง" เล่นกันได้อย่างน่าเบื่อ จบเกมเสมอกันไปแบบจืดชืด 0-0 เกม "ฟุตบอลโลก 2010" รอบสุดท้าย กลุ่มจี

การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้าย คู่ที่สอง ของวันอังคารที่ 15 มิถุนายน ทำการแข่งขันในเวลา 21.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เป็นการประเดิมสนามของกลุ่มจี ระหว่างทีมชาติ "ช้างดำ" ไอวอรี่โคสต์ พบกับ ทีมชาติ "ฝอยทอง" โปรตุเกส ทำการแข่งขันกันที่สนาม เนลสัน แมนเดล่า เบย์ สเตเดี้ยม เมืองพอร์ท อลิซาเบธ ประเทศแอฟริกาใต้

"ช้างดำ" ไอวอรี่โคสต์ ตัวแทนจากทวีปแอฟริกา เล่นเกมอุ่นเครื่อง 5 นัด หลังสุด ทำผลงานได้ดีพอสมควร  โดยชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 1 นัด ในนัดล่าสุด เอาชนะ ญี่ปุ่น 2-0 ไปได้ ที่สนามกลาง ส่วน ขุนพลจากแดน "ฝอยทอง" โปรตุเกส อุ่นเครื่อง 3 เกมหลังสุด ผลงานลุ่มๆดอนๆ ชนะสองนัดและเสมออีกหนึ่งนัด โดยนัดที่เสมอนั้น ทำงามหน้า เนื่องจากเสมอทีมอ่อนชั้นกว่าอย่าง หมู่เกาะเคปเวิร์ด 0-0

ไอวอรี่โคสต์ วันนี้ สเวน โกรัน อิริกสันส์ จัดทีมมาในระบบ 4-3-3 ไม่มี ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ผู้เล่นที่ทรงคุณค่าที่สุดของทีม เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณแขน กองหน้าสวามตัว เลยเป็นหน้าที่ของ อารูน่า ดินดาน ที่ยืนหย้าเป้าแทนที่ ดร็อกบา และเอา ซาโลมง กาลู กับ แจร์วินโญ่ ไปลากเลื้อยทางกราบสองข้าง ส่วนกองหลัง และกองกลาง ยังมีความแน่นหนาของสองพี่น้อง ตูเร่ ทั้ง โคโล่ และ ยาย่า

ส่วน โปรตุเกส วันนี้ คาร์ลอส เคยรอซ จัดการให้ปลอกแขนกัปตันทีมแก่ โรนัลโด้ เป็นครั้งแรกที่เกมระดับเมเจอร์ โปรตุเกส จัดทีมมาในระบบ 4-3-3 เช่นกัน มีการพลิกโผหลายตำแหน่ง ทั้ง เปาโล แฟร์เรยร่า ที่ได้รับโอกาสลงสนามแทนที่ มิเกล

ส่วน แดนนี่ ก้ได้ลงสนามมาลากเลื้อยทางกราบซ้ายแทนที่ ซิเมา ที่ก่อนเกมได้รับการคาดหมายว่าจะได้ลงสนามแทน นานี่ ที่ถอนตัวออกไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ

เริ่มเกมขึ้นมาในช่วงแรก ทั้งสองทีมบุกแลกกันอย่างดุเดือด แต่ยังไม่สามารถหาจังหวะยิงกันได้อย่างชัดเจน

น.6 มีใบเหลืองแรกของเกมจนได้ จากจังหวะที่ ดิดิเยร์ โซโกร่า กองกลางพันธุ์ดุ เข้าสกัดหนักใส่ โรนัลโด้ บริเวณกลางสนาม

น.11 โปรตุเกส ได้จังหวะทักทายก่อนจาก โรนัลโด้ ที่ยิงไกลระยะประมาณ สามสิบห้าหลา บอลพุ่งน่ากลัว ไปชนเสาอย่างจัง ออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

น.17 ไอวอรี่โคสต์ ได้โอกาสทักทายกลับคืนมาบ้าง จากจังหวะที่ ชีค อิสมาเอล ติโอเต้ ได้ตั้งป้อมยิงไกล ระยะประมาณ 25 หลา แต่บอลย้อนออกหลังไป

น.21 มีการปะทะกันเกิดขึ้นหน้ากรอบเขตโทษของ ไอวอรี่โคสต์ เป็น โรนัลโด้ และ กีย์ เดแมล จนทั้งสองคนได้รับใบเหลือง จาก ฮอร์เก้ ลาร์ริออนด้า ผู้ตัดสินจอมเฮี้ยบจาก อุรุกวัย

หลังจากนั้น เกมของทั้งสองทีม ส่วนใหญ่อยู่ที่บริเวณกลางสนาม ไม่สามารถทำเกมบุกขึ้นไปหาโอกาสทำประตูกันได้อย่างจะแจ้ง

จบครึ่งแรก ไอวอรี่โคสต์ ยังเสมออยู่กับ โปรตุเกส 0-0

น.47 แจร์วินโญ่ ได้จังหวะกระชากบอลไปทางกราบซ้าย ก่อนเปิดตัดเข้ามาหน้าปากประตู แต่ เอดูอาร์โด้ ยังไว พุ่งปัดบอลออกไปได้

เริ่มเกมครึ่งหลังมาไม่นาน น.55 คาร์ลอส เคยรอซ เห็นว่าเกมรุกไม่ดีขึ้น เลยทำการเปลี่ยนตัวคนแรก โดยเอา ซิเมา ซาโบรซ่า ลงสนามมาแทนที่ แดนนี่ ดาวเตะ เซนิต ในรัสเซีย

หลังจากที่ โปรตุเกส เปลี่ยนเกมรุกได้ไม่นาน น.65 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ก็ได้รับโอกาสลงสนาม มาแทนที่ กาลู นักเตะ เชลซี เช่นกัน ที่วันนี้เล่นไม่ออกเลย ทำให้ กองเชียร์ ชาว ไอวอรี่โคสต์ กระโดดโลดเต้นด้วยความหวัง

น.80 โปรตุเกส ได้ลูกฟรีคิกระยะประมาณ 40 หลา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ลองส่องไกล บอลเหินข้ามคานออกไปแบบมีเสียว

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ไอวอรี่โคสต์ ก็มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง จากจังหวะที่การจ่ายทะลุช่องของ โซโกร่า ไปให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปยิง แต่ "เดอะ ดร็อก" กลับทำตัวใจกว้าง เปิดบอลเข้ากลาง แต่ไม่มีใครเข้ามาชาร์จได้ทัน

จบเกม ไอวอรี่โคสต์ ทำได้เพียงแค่เสมอกับ โปรตุเกส 0-0 แบบจืดชืด ส่งผลให้ประเดิมเก็บแต้มได้เพียง 1 แต้ม จากการลงสนาม 1 นัด เท่ากัน โดยใน กลุ่มจี นี้ ยังเหลืออีกคู่ คือ บราซิล พบกับ เกาหลีเหนือ ในช่วง ตีหนึ่งครึ่งของคืนวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : คริสเตียโน่ โรนัลโด้

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
ทีมชาติ ไอวอรี่โคสต์ ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : บูบาการ์ แบร์รี่
กองหลัง : เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ (คอฟฟี่ โรมาริค 88), โคโล ตูเร่ (กัปตันทีม), เซียก้า ตีเน่, กีย์ เดแมล
กองกลาง : ยาย่า ตูเร่, ชีค อิสมาเอล ติโอเต้, ดิดิเยร์ โซโกร่า
กองหน้า : อารูน่า ดินดาน, ซาโลมง กาลู (ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 65), แจร์วินโญ่ (อับเดลกาแดร์ เกอิเต้ 82)

ทีมชาติ โปรตุเกส ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : เอดูร์อาโด้
กองหลัง : บรูโน่ อัลเวส, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, เปาโล แฟร์เรยร่า, ฟาบิโอ โกเอนเตรา
กองกลาง : เดโก้ (ติอาโก้ 62), ราอูล ไมเรเลส (รูเบน อโมริม 85), เปโดร เมนเดส
กองหน้า : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม), เลียดสัน, แดนนี่ (ซิเมา ซาโบรซ่า 55)

ผู้ตัดสิน : ฮอร์เก้ ลาร์ริออนด้า (อุรุกวัย)