7M SPORTS เพิ่มเป็นไซต์โปรด 
อัซซูรี่จืด!ไล่เจ๊าปารากวัย1-1 เก็บ1แต้มเวิลด์คัพกลุ่มเอฟ
15/06/2010  ที่มา  Sportfm
ขนาด: A A A


ฟาบิโอ คันนาวาโร่ พาบอลหนี ลูคัส บาร์ริออส

แชมป์เก่าขุนพล "อัซซูรี่" อิตาลี ลงประเดิมสนามไม่ดี เมื่อทำได้แค่ไล่ตามตีเสมอ ปารากวัย 1-1 จากลูกยิงของ เด รอสซี่ นาทีที่ 63 หลังจากที่ อันโตลิน อัลการาซ โขกนำไปก่อนในครึ่งแรก ในศึกเวิลด์ คัพ 2010 กลุ่ม เอฟ

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ที่สนามกรีน พอยท์ สเตเดี้ยม ในเมืองเคป ทาวน์ ประจำวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 53 เป็นการแข่งขันคู่แรกในกลุ่ม เอฟ ระหว่าง "อัซซูรี่" ทีมชาติอิตาลี แชป์เก่าเมื่อคราวที่แล้ว จากทวีปยุโรป พบกับ ทีมชาติปารากวัย ตัวแดนจากอเมริกาใต้

มาร์เชลโล่ ลิปปี้ กุนซืออิตาลี กลับมาพาทีมป้องกันแชมป์ แต่ต้องขาดแกนหลักอย่าง อันเดรีย ปีร์โล่ ที่บาดเจ็บเรียกฟิตกลับมาไม่ทันนัดแรก แนวรุกวางใจ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ยืนหอกเดี่ยว มี ซิโมเน่ เปเป้, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ และ วินเชนโซ่ ยาควินต้า คอยปั้นเกมสนับสนุน ส่วนฝั่งปารากวัย เคราร์โด้ มาร์ติโน่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ แม้จะได้ ออสการ์ การ์โดโซ่ กองหน้าจากสโมสร เบนฟิก้า หายเจ็บกลับมาแล้ว แต่ยังวางใจ เนลสัน วัลเดซ กับ ลูคัส บาร์ริออส เป็นคู่พาร์ทเนอร์ในแดนหน้า

เริ่มเกมเป็นทีมชาติอิตาลี ที่มาในชุดเก่ง เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีขาว ได้เขี่ยบอลก่อน บุกจากซ้ายไปขวา ส่วนทีมชาติปารากวัย มาในชุดเสื้อขาว-แดง กางเกงน้ำเงิน ซึ่งทั้งสองทีมต้องเจอสภาพสนามที่ค่อนข้างเฉอะแฉะ เมื่อมีฝนตกลงมาก่อนที่เกมจะเริ่มขึ้น ส่งผลให้การคอนโทรลบอลได้ยาก

น.10 ทั้งสองทีมเริ่มต้นเกมกันอย่างระมัดระวัง แทบที่จะหาจังหวะจบสกอร์และจังหวะเข้าทำยากด้วยกันทั้งสองทีม แต่เป็นแชมป์เก่าเมื่อปี 2006 ที่ทำได้ดีกว่า จากจังหวะยิงไกลกว่า 25 ของ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ มิดฟิลด์ดาวรุ่งจาก ฟิออเรนติน่า ที่รับหน้าที่แทน อันเดรีย ปีร์โล่ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่ก็โดนเข้ามาบล็อกได้ทัน

น.22 ความผิดพลาดในแดนกลางของ เอ็นริเก้ เวร่า ผู้เล่นปารากวัย เกือบเป็นการสังเวยประตูให้กับอิตาลี เสียแล้ว เมื่อ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ฉกบอลได้ ก่อนที่จะโซโล่เดี่ยวเข้าไปยิงตรงบริเวณหน้าเขตโทษ แต่บอลก็ไปเข้ามือ ฮุสโต้ วีย่าร์ รับไว้ได้เหนียวหนึบ

น.23 จากจังหวะต่อเนื่อง ปารากวัย ฉกฉวยโอกาสในการเล่นลูกโต้กลับฉับพลัน โดยขึ้นเกมมาทางฝั่งขวา คริสเตียน ริเวรอส พาบอลเข้าสู่พื้นที่แนวรับของอิตาลี ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ออเรเลียโน่ ตอร์เรส ง้างเท้ายิงระยะ 20 หลา แต่บอลก็หลุดกรอบออกเสาไกลไป

น.32 ปารากวัย ยังเล่นเกมตั้งรับอย่างอดทน แล้วก็มาได้ลูกสวนกลับอีกครั้ง จาก เนลสัน วัลเดซ พาบอลเข้าไปยิงไกล แต่ก็หลุดกรอบไปอีกครั้ง

น.39 ทีมชาตอิตาลี แทบที่จะเป็นฝ่ายพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว แต่ต้องมาเสียลูกฟรีคิกระยะร่วม 45 หลา เยื้องไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย ออเรเลียโน่ ตอร์เรส เปิดโค้งเข้ามาที่จุดนัดพบ อันโตลิน อัลการาซ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเติมขึ้นมาโขกจมตาข่าย ให้ ปารากวัย ออกนำ 1-0

ทำให้จบครึ่งแรกกลายเป็นอิตาลี แชมป์เก่า ตามหลัง ปารากวัย 0-1

ครึ่งหลัง มาร์เชลโล่ ลิปปี้ กุนซือทัพอัซซูรี่ ต้องเสียผู้เล่นคนสำคัญอย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน จนต้องส่ง เฟเดริโก้ มาร์เค็ตติ ผู้รักษาประตูสำรอง จากสโมสรกายารี่ ลงมาเล่นแทนในอีก 45 นาทีหลัง

น.55 เริ่มครึ่งหลังมาได้ 10 นาที ปารากวัย มีโอกาสที่จะได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะสวนกลับเช่นเดิม ลูคัส บาร์ริออส ได้ยิงก่อนในจังหวะแรกโดนบล็อกทัน จานลูก้า ซามบร็อตต้า เคลียร์ทิ้งออกมาไม่ดี บอลมาเข้าทาง เอ็นริเก้ เวร่า ทางฝั่งขวา ยิงซ้ำเข้าไปทันที บอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว

น.59 เมาโร คาโมราเนซี่ เป็นตัวสำรองรายที่สองที่ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ ส่งลงสนามมาแทน เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ที่ไร้บทบาทในครึ่งหลัง ส่วน ปารากวัย ตัดสินใจถอด ออเรเลียโน่ ตอร์เรส ออก ส่ง โจนาธาน ซานตาน่า ลงมาเชื่อมเกมในแดนกลาง

น.63 รูปเกมของอิตาลี เริ่มทำได้ดีขึ้นตามลำดับหลังจากที่ตัวลากเลื้อยริมเส้นอย่าง คาโมราเนซี่ ลงมา จนมาสมหวังตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้าย ซิโมเน่ เปเป้ เปิดโค้งเข้ากลาง ฮุสโต้ วีย่าร์ นายทวารปารากวัย ออกมาตัดบอลวืด ดานิเอเล่ เด รอสซี่ โฉบมาแปจ่อๆ ไม่เหลือซาก

น.80 หลังจากที่อิตาลี ได้ประตูตีเสมอสำเร็จ รูปเกมของทั้งสองทีมเริ่มเนือยๆ ลง แม้ว่า อิตาลี จะส่ง อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ลงมา ส่วนปารากวัย วางกองหน้าตัวสูงใหญ่ทั้ง โรเก้ ซานตา ครูซ และ ออสการ์ การ์โดโซ่ ลงมาแล้วยังเจาะตาข่ายไม่ได้ มีเพียงแต่จังหวะยิงไกลหน้าเขตโทษของ ซิโมเน่ เปเป้ ที่ลากตัดมาจากฝั่งซ้ายยิงเข้ามือนายทวารปารากวัย

น.83 อิตาลี พยายามที่จะขึงเกมรุกเอาไว้ให้ได้ มีโอกาสงามสุดๆ จากลูกยิงไกลของ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ที่บอลพุ่งกระดอนพื้นทำท่าว่าจะเสียบมุม แต่ ฮุสโต้ วีย่าร์ พุ่งปัดออกไปได้ทันอย่างยอดเยี่ยม

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติอิตาลี
จานลุยจิ บุฟฟ่อน (เฟเดริโก้ มาร์เค็ตติ 46) - จานลูก้า ซามบร็อตต้า, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, โดเมนิโก้ คริสซิโต้ - ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ - ซิโมเน่ เปเป้, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ (เมาโร คาโมราเนซี่ 59), วินเชนโซ่ ยาควินต้า - อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ (อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ 72)
สำรองไม่ได้ใช้
มอร์แกน เด ซานซ์ติส - คริสเตียน มาจโจ, ซัลวาตอเร่ บ็อคเค็ตติ, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, เจนนาโร่ กัตตูโซ่, อันเจโล ปาลอมโบ, อันเดรีย ปีร์โล่, ฟาบิโอ กวายาเรล่า, จามเปาโล ปาซซินี่

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติปารากวัย
ฮุสโต้ วีย่าร์ - การ์ลอส โบเน็ต, อันโตลิน อัลการาซ, เปาโล ดา ซิลวา, เคลาดิโอ โมเรล โรดริเกซ - เอ็นริเก้ เวร่า, วิคเตอร์ กาเซเรส, คริสเตียน ริเวรอส, ออเรเลียโน่ ตอร์เรส (โจนาธาน ซานตาน่า 60) - เนลสัน วัลเดซ (โรเก้ ซานตา ครูซ 68), ลูคัส บาร์ริออส (ออสการ์ การ์โดโซ่ 76)
สำรองไม่ได้ใช้
ดีเอโก้ บาร์เรโต้, อัลโด้ โบบาดีย่า - เดนิส กานิซ่า, ฮูลิโอ เซซ่าร์ กาเซเรส, ดาริโอ เวรอน, เอ็ดการ์ บาร์เรโต้, เนสเตอร์ ออร์ติโกซ่า, โรดอลโฟ่ กามาร์ร่า

ผู้ตัดสิน : เบนิโต้ อาร์ชุนเดีย (เม็กซิโก)

เมือง&สนามบอล
ตารางคะแนน
  • A
  • B
  • C
  • D
  • E
  • F
  • G
  • H
    หากไม่มีการระบุเวลาการแข่งขันใด ให้ยึดเวลาของ GMT+0800 เป็นหลักเท่านั้น
    เวบไซด์นี้สงวนลิขสิทธิ์โดย www.7mth.com Copyright © 2003 -