ฮอลแลนด์ 2-0 เดนมาร์ก

เป็นเกมส์ที่ลุ้นกันอย่างสนุก เมื่อ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ทีมเต็งของสาย ทำเกมบุกกระหน่ำอัด "โคนม" เดนมาร์ก อย่างหนักเอาชนะไปอย่างขาดลอย 2-0 ดาวเตะจอมซ้ำ(เดิร์ค เค้าท์) ซัดปิดสกอร์ ช่วงท้ายเกม ให้ฮอลแลนด์ กำชัยคว้า 3 แต้ม ขึ้นจ่าฝูงของกลุ่มอี ไปก่อนในขณะนี้

การแข่งขันฟุตบอลโลก (เวิล์ด คัพ) 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ณ. สนามซอคเก้อร์ ซิตี้  เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เป็นการแข่งขันคู่แรก ของกลุ่ม อี ระหว่าง "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ทีมเต็งของสาย พบกับ "ขุนพลโคนม" เดนมาร์ก คู่นี้ดวลแข้งกันเวลา 18.30น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ นำทีมโดย เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ก เทรนเนอร์วัย 57 ปี เขาคือกุนซือที่เดินเข้ามารับงานต่อจาก มาร์โก แวน บาสเท่น ในปี 2008 พร้อมกับโชว์ให้เห็นถึงผลงานพาขุนพล "ออรันเย่" คว้าแชมป์รอบแบ่งกลุ่มมาแบบสบายๆ ด้วยการทิ้งห่าง นอร์เวย์ ทีมรองถึง 14 คะแนนเลยทีเดียว อีกทั้งผลงานการอุ่นเครื่อง 4 นัด (U.S.A.,แม็กซิโก,กาน่า,ฮังการี่) ทำทีมชนะรวดมาเลยทีเดียว

สำหรับทีม เดนมาร์ก มีกุนซืออย่าง มอร์เท่น โอลเซ่น ขรัวเฒ่าวัย 60 กะรัต เขาเคยเป็นอดีตดาวเตะคนสำคัญของ "ทัพโคนม" ช่วงทศวรรษที่ 70-80 และติดทีมชาติเกิน 100 นัด ผลงานโดยรวมก็ถือว่าทำได้ดี เขาสามารถ พาทัพ "โคนม" ผ่านเข้าสู่แมตช์ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมา 1 สมัย (2002) และยูโร(2004) แต่ก็ไปได้ไม่ไกลนัก มาในปีนี้เขาจึงจัดการขัดเกลาเขี้ยวเล็บ เดนมาร์ก ใหม่จนครบเครื่องทั้งแนวรุก-รับ สำหรับ ผลงานการอุ่นเครื่อง 4 นัดนั้น ชนะเซเนกัล มาแค่นัดเดียวเท่านั้น (แพ้ ออสเตรีย,ออสเตรเลีย,แอฟริกา)

ครึ่งเวลาแรก

เริ่มการแข่งขัน เดนมาร์กเป็นฝ่ายเริ่มเขี่ยเล่นบอลก่อน ช่วงต้นเกมต่างฝ่ายต่างทำเกมกันอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีจังหวะที่ได้ลุ้นของทั้ง 2 ทีม

มาถึง น.6 ฮอลแลนด์ ได้ลูกฟรีคิกระยะ 38 เมตร เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ตัดสินใจยิงไกลเต็มเหนี่ยว บอลแรงลอยออกหลังประตูไป ได้ลุ้นเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นาน เดนมาร์ก ได้ลูกฟรีคิกบ้างและเป็นทาง โธมัส เอ็นโวลด์เซ่น ยิงปั่นข้ามกำแพง บอลโค้งแต่ไม่ตรงกรอบ

น.10 เดิร์ค เค้าท์ ได้โอกาสครั้งแรกของเกม ตั้งป้อมยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งตรงตัวไปเข้าทาง โธมัส โซเรนเซ่น โชว์การป้องกันเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

เกมผ่านมา 20 นาที เป็นทางฝั่งของ ฮอลแลนด์ ที่มีโอกาสครองบอลและทำเกมดูว่าน่าจะเหนือกว่า

น.21 เป็นโอกาสที่สองของทาง ฮอลแลนด์ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ได้จังหวะโชว์ทักษะอย่างเหนือชั้นหน้าปากประตู หลบกองหลังของเดนมาร์ก กลับตัวแล้วซัดเต็มเท้า บอลลอยโด่งข้ามคานออกไปหวุดหวิด ทำให้ทีมเกือบมีลุ้นประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย

น.28  โอกาสของเดนมาร์กก็มาถึงเมื่อ เดนนิส รอมเมดาห์ล หาจังหวะเปิดบอลจากกราบขวาเข้ามาให้ นิคลาส เบนท์เนอร์ ได้โอกาสโขกเน้นๆ หน้าปากประตู บอลตกลงพื้นเฉียดเสาไปนิดเดียว เกือบเป็นประตูขึ้นนำของทางเดนมาร์ก

น.34 เดนมาร์กได้โอกาสจาก เดนนิส รอมเมดาห์ล สับไกลเต็มเหนี่ยวบริเวณกรอบเขตโทษ บอลพุ่งอย่างแรง แต่ก็ไปเข้าซองของ มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ได้ลุ้นหวาดเสียวเลยทีเดียว

น.37 เป็นซูปเปอร์เซฟอีกครั้งของ มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก เมื่อ เดนนิส รอมเมดาห์ล เลี้ยงบอลมาจากฝั่งซ้ายมีโอกาสยิงหักข้อ บอลพุ่งเข้าหา มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ปัดออกหลังไป เกือบเป็นลูกขึ้นนำของเดนมาร์กอีกครั้ง

ช่วงท้ายครึ่งแรกน.44 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้บอลจากทางด้านขวาล็อกบอลไปมา แล้วจึงตัดสินใจยิงจากมุมแคบด้วยขวา แต่บอลเข้าข้างตาข่ายไป ทำให้เกมหมด 45 นาทีแรกยังเสมอกัน0-0

จบครึ่งแรก เกมส์ลุ้นกันอย่างดุเดือด เสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งเวลาหลัง

เกมเริ่มมาไม่ทันไร นาทีแรกของครึ่งหลัง เป็นทาง เดนมาร์ก ที่ทำผิดพลาดเองเมื่อ ซิมอน โพลเซ่น โหม่งบอลเพื่อจะเคลียร์ออกจากหน้าประตู แต่บอลดันไปชนหลังของ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ บอลจึงเปลี่ยนทางโดนเสาเข้าประตูตัวเองไป ทำให้ ฮอลแลนด์ ขึ้นนำไปแล้ว 1-0

น. 52 เมื่อ ซิมอน เคียร์ เล่นจังหวะพลาดเองโดน เดิร์ค เค้าท์ ได้โอกาสฉกบอลไป แล้วหาจังหวะเปิดเร็วจากทางด้านขวา ให้กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จับบอลลงห่างตัวไปทำให้หมดโอกาสยิง และเป็นโธมัส โซเรนเซ่น ที่เข้ามาคว้าบอลได้อย่างทันควัน

น. 59 ฮอลแลนด์ได้โอกาสอีกครั้ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เปิดบอลยาวไปให้กับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ยิงทันทีด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งไม่แรงพอ ทำให้ โธมัส โซเรนเซ่น โชว์การบินไปคว้าบอลแบบติดมือไว้ได้

เกมดำเนินมา 20 นาที ยังคงเป็นทางฝั่งของทีม "อัศวินสีส้ม" ที่สามารถทำเกมและครองบอลได้อย่างต่อเนื่อง ทำความกดดันให้กับทีม "โคนม" ได้อย่างหนักหน่วง

น.70 เมื่อ เอลเยโล่ เอเลีย ได้จังหวะทำการกระซากบอลขึ้นไปทางด้านซ้าย ก่อนที่จะซัดหักข้อไปติด ซิมอน เคียร์ ที่วิ่งตามมาสกัดไว้ได้ทัน

น.72 เอลเยโล่ เอเลีย ก็แผงฤทธิ์ทางด้านซ้ายอีกแล้ว ก่อนที่จะเปิดบอลเข้ากลาง ทำให้ โธมัส โซเรนเซ่น ต้องรีบทุบบอลออกมา ทำให้มาเข้าทางของ มาร์ค ฟาน บอมเมล ได้โอกาสจากทางด้านขวา ตั้งป้อมซับไกด้วยขวาเต็มเหนี่ยว บอลพุ่งอย่างแรงถาดเสาออกหลังไป ทำให้ฮอลแลนด์เกือบได้ลุ้นประตูนำห่างเป็น 2-0

น.82 เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ได้โอกาส ตั้งป้อมหน้ากรอบเขตโทษ ซัดด้วยซ้าย บอลแฉลบ ลอยโด่งเกือบมุดคาน ทำให้ โธมัส โซเรนเซ่น ต้องลอยตัวปัดออกหลังไปอย่างหวุดหวิด

จากนั้น ฮอลแลนด์ก็เป็นฝ่ายได้เฮอีกครั้ง น.85 เอลเยโล่ เอเลีย วิ่งพาบอลกระชากหลุดแผงหลัง แล้วยิงไปทางเสาสองผ่านมือ โธมัส โซเรนเซ่น บอลเด้งเสากระดอนออกมา และเป็น ดาวเตะจอมซ้ำ (เดิร์ค เค้าท์) แปบอลซ้ำเน้นๆเข้าไป ทำให้ฮอลแลนด์ขึ้นนำห่างเป็น 2-0

เกมเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที ทั้งสองทีมพยายามหาจังหวะทำเกมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ หมดเวลา ฮอลแลนด์ เอาชนะ เดนมาร์ก ไป 2-0 (ซิมอน โพลเซ่น own),(เดิร์ค เค้าท์)

จบการแข่งขัน : ฮอลแลนด์ 2-0 เดนมาร์ก

รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม
ฮอลแลนด์ ระบบ : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก
กองหลัง : โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, จอห์น ไฮติงก้า, โยริส มาไธจ์เซ่น, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล
กองกลาง : มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ยองก์, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, เดิร์ค เค้าท์
กองหน้า : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

เดนมาร์ก ระบบ : 4-3-3
ผู้รักษาประตู : โธมัส โซเรนเซ่น
กองหลัง : ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, ซิมอน เคียร์, ซิมอน โพลเซ่น
กองกลาง : คริสเตียน โพลเซ่น, โธมัส คาห์เลนเบิร์ก, มาร์ติน ยอร์เกนเซ่น
กองหน้า : เดนนิส รอมเมดาห์ล, นิคลาส เบนท์เนอร์, โธมัส เอ็นโวลด์เซ่น