ทัพ"กังหันสีส้ม" ไร้อาร์เยน ร็อบเบน ที่ไม่ฟิตส่งราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เสียบแทนเกมฟัดเดนมาร์ก ที่รอเช็กความพร้อมของนิคลาส เบนท์เนอร์ ดาวยิงตัวความหวังจากอาร์เซน่อล ในเกมกลุ่มอี เวิลด์ คัพ 2010 ส่วนอีกคู่ญี่ปุ่นฮอนดะ กับ ฮาเซเบะ ลงดวลแคเมอรูน ที่ส่งเอโต้กับเวโบ ลงล่าตาข่าย

กลุ่มอี
ฮอลแลนด์ - เดนมาร์ก
ถ่ายทอดสด ช่อง 3 เวลา 18.30

สนาม : ซอคเก้อร์ ซิตี้, โจฮันเนสเบิร์ก

ฮอลแลนด์ รองแชมป์โลก 2 สมัย หนึ่งในทีมเต็งแชมป์คราวนี้ จะเปิดสนามกลุ่มอี กับ เดนมาร์ก ทีมแกร่งร่วมทวีปยุโรป ซึ่งคู่นี้พบกันในเกมอุ่นเครื่องล่าสุดปี 2008 ซึ่งเสมอกัน 1-1 ที่ไอนด์โฮเฟ่น โดยรวมเจอกันมาแล้ว 28 ครั้ง แต่ไม่เคยเจอกันมาก่อนในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย

เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือทีมกังหันสีส้ม มีปัญหาสภาพทีมแค่จุดเดียว แต่เป็นจุดหลัก เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวความหวังจากบาเยิร์น มิวนิค ที่ได้รับบาดเจ็บเอ้นหลังหัวเข่าในระหว่างเกมลับแข้งนัดสุดท้าย ชนะ ฮังการี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ยืนยันแล้วว่า ร็อบเบน จะไม่สามารถลงสนามได้ในการเตะกับทีมโคนม อีกทั้งจะไม่มีชื่อในม้านั่งสำรองด้วย

ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท จอมทัพจากเรอัล มาดริด จะได้โอกาสเสียบแทน ร็อบเบน หลังทำผลงานได้น่าประทับใจในระหว่างเตรียมทีมลุยบอลโลก

คาลิด บูลาห์รูช แบ็กขวาจากสตุ๊ตการ์ท เป็นอีกคนที่มีปัญหาบาดเจ็บ แต่จะไม่ส่งผลกับทีมนัก เนื่องจากเป็นตัวสำรองของรุ่นน้องอย่าง เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล ตลอดระยะหลัง

ที่เหลือไม่มีปัญหา ซูเปอร์สตาร์อย่าง เวสลี่ย์ สไนเดอร์, เดิร์ค เค้าท์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ พร้อมลบงสนามทั้งหมด เช่นกันกับขุมกำลังสำรองอย่าง คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์, อิบราฮิม อเฟลลาย และ ไรอัน บาเบิล

ฟาน มาร์ไวค์ ไม่น่าจะเปลี่ยนทีมจากเกมลับแข้งล่าสุดที่ถล่ม ฮังการี 6-1 นัก โดยจะยึด 11 คนจากเกมดังกล่าวลงสนามในระบบ 4-2-3-1 มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก เฝ้าเสา แนวรับจากซ้ายไปขวาเป็น โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, จอห์น ไฮติงก้า, โยริส มาไธจ์เซ่น และ เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล ให้ มาร์ค ฟาน บอมเมล ดูแลเกมรับกับ ไนเจล เดอ ยองก์ โดยมี ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เวสลี่ย์ สไนเดอร์ และ เดิร์ค เค้าท์ คอยสนับสนุนหัวหอกตัวเป้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

ด้าน เดนมาร์ก แชมป์ยูโร 1992 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาด้วยผลงานชิ้นโบว์แดง เป็นแชมป์กลุ่มเหนือ โปรตุเกส หลังจากพลาดเข้ารอบสุดท้ายทัวร์นาเมนต์สำคัญมา 2 ครั้งติดกัน อย่าง ฟุตบอลโลก 2006 และ ยูโร 2008

มอร์เทน โอลเซ่น กุนซือทีมโคนม ต้องเจอปัญหาทั้งสภาพทีมและฟอร์มการเล่นในช่วงเตรียมทีม เมื่อแพ้ ออสเตรเลีย กับ แอฟริกาใต้ ใน 2 เกมสุดท้ายของการลับแข้ง ด้วยสกอร์ 0-1 เท่ากัน หลังจากเตะเกมแรกในบ้านตัวเองชนะ เซเนกัล 2-0

นิคลาส เบนท์เนอร์ ดาวยิงตัวความหวังจากอาร์เซน่อล มีอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบติดตัว จนไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมลับแข้งตลอด 3 นัด และก็ไม่น่าจะเล่นเกมกับ ฮอลแลนด์ ได้ด้วย โดยหากเรียกความฟิตได้ เต็มที่ก็น่าจะเป็นแค่สำรอง

โอลเซ่น จะดัน ยอน ดาห์ล โทมัสสัน กองหน้ากัปตันทีม จากเฟเยนูร์ด ร็อตเตอดัม ขึ้นไปยืนกองหน้าตัวเป้าแทน เบนท์เนอร์ แม้ว่าหัวหอกวัย 33 จะยิงประตูให้ทีมชาติไม่ได้มาตั้งแต่เกมพบ สโลวีเนีย เมื่อช่วงต้นปี 2008 ก็ตาม

แต่ โอลเซ่น ยังมีข่าวดี เมื่อ ซิมอน เคียร์ ปราการหลังตัวเก่งจาก ปาแลร์โม่ ที่บาดเจ็บไปในเกมชนะ เซเนกัล 2-0 หายเจ็บกลับมาลงซ้อมได้แล้ว และจะพร้อมลงสนามเป็นตัวจริง ทำให้ เพอร์ คอลดรุป เซนเตอร์จากฟิออเรนติน่า ต้องรอโอกาสบนม้านั่งสำรองไปก่อน

อีกหนึ่งรายที่บาดเจ็บ คือ แพทริก เอ็มติลิก้า ฟูลแบ็กจากมาลาก้า แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เมื่อ เอ็มติลิก้า ไม่ใช่ตัวหลักในทีม และเพิ่งรับใช้ชาติไปเพียง 4 นัดเท่านั้น โดยคาดว่าแบ็กซ้ายวัย 29 จะกลับมาได้ในเกมหน้า

สำหรับตำแหน่งนายทวารมีการหวั่นเกรงกันก่อนหน้านี้ว่า โธมัส โซเรนเซ่น ผู้รักษาประตูมือหนึ่งจาก สโต๊ค ซิตี้ จะไม่พร้อม ก็ได้รับการสะสางเป็นที่เรียบร้อย โซเรนเซ่น ฟิตพร้อมเฝ้าเสาตามปกติ  ไม่ต้องปล่อยภาระให้มือรองอย่าง สเตฟาน อันเดอร์เซ่น หรือ เยสเปอร์ คริสเตียนเซ่น ที่ยังมีประสบการณ์ในทีมชาติน้อยนิดทั้งคู่

ในระบบ 4-3-3 โธมัส โซเรนเซ่น เฝ้าเสา แบ็กขวาเป้น ลาร์ส ยาค็อบเซ่น คู่เซนเตอร์ใช้ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ กับ ซิมอน เคียร์ แบ็กซ้ายเป็น วิลเลี่ยม ควิสต์ กลางสามตัวมี คริสเตียน โพลเซ่น, ยาค็อบ โพลเซ่น และ โธมัส คาห์เลนเบิร์ก ให้ เดนนิส รอมเมดาห์ล กับ  เยสเปอร์ กรุนชาร์ ขึ้นทางกราบ ตรงกลางมี ยอน ดาห์ล โทมัสสัน ปักหลักหน้าเป้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ฮอลแลนด์ (4-2-3-1) : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก - โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, จอห์น ไฮติงก้า, โยริส มาไธจ์เซ่น - เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล - มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ยองก์ - ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท,  เวสลี่ย์ สไนเดอร์, เดิร์ค เค้าท์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

เดนมาร์ก (4-3-3) : โธมัส โซเรนเซ่น - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, ซิมอน เคียร์, วิลเลี่ยม ควิสต์ - คริสเตียน โพลเซ่น, ยาค็อบ โพลเซ่น, โธมัส คาห์เลนเบิร์ก - เดนนิส รอมเมดาห์ล, ยอน ดาห์ล โทมัสสัน, เยสเปอร์ กรุนชาร์

ผู้ตัดสิน : สเตฟาน ลังนัว (ฝรั่งเศส)

ญี่ปุ่น - แคเมอรูน
เวลา 21.00 ถ่ายทอดสด ช่อง 7

สนาม : ฟรี สเตท สเตเดี้ยม, บลูมฟอนเทน

ญี่ปุ่น อีกหนึ่งตัวแทนของเอเชีย จะเตะนัดแรกพบ แคเมอรูน หลังจากมีผลงานช่วงเตรียมทีมที่ค่อนข้างแย่ แพ้ตลอด 3 นัด ให้กับ เกาหลีใต้, อังกฤษ และ ไอวอรี่ โคสต์ โดยที่มีการทำเข้าประตูตัวเองถึง 3 ครั้งด้วยกัน

นอกจากฟอร์มแย่ ทาเคชิ โอกาดะ กุนซือทีมซามูไร ยังมีสภาพทีมไม่เต็มร้อย เมื่อ ยาซูยูกิ คอนโนะ กองหลังจากเอฟซี โตเกียว ไม่สามารถลงเล่นได้เนื่องจากบาดเจ็บเข่า ในเกมแพ้ ไอวอรี่ โคสต์ 0-2 และยังต้องลุ้นต่อว่าจะหายเจ็บกลับมาทันเกมไหน

การที่ คอนโนะ ลงเล่นไม่ได้ โอกาดะ จะใช้ ยูอิจิ โคมาโนะ กองหลังจาก จูบิโล่ อิวาตะ ลงเล่นแทน ร่วมกับตัวหลักอย่าง มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ เซนเตอร์เชื้อสายบราซิเลี่ยน และ ยูอิจิ นากาซาวะ กองหลังที่รับใช้ชาติมากมากกว่าร้อยนัด

ชุนซูเกะ นากามูระ กองกลางตัวเก่งจาก โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส น่าจะเริ่มต้นด้วยการเป็นตัวสำรองเท่านั้น หลังจากมีปัญหาบาดเจ็บก่อนหน้านี้จนไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมอุ่นเครื่องมากนัก เช่นกันกับ ทากายูกิ โมริโมโตะ กองหน้าจากคาตาเนีย ทีมในอิตาลี ที่ยังเป็นสำรองในทีมชุดนี้

ทีมซามูไรจะเล่นโดยแพ็กแดนกลางในระบบ 4-5-1 นายทวารใช้ เซอิโกะ นาราซากิ กองหลังมี ยูอิจิ โคมาโนะ, ยูจิ นากาซาวะ, มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ และ ยูโตะ นากาโตโมะ

แดนกลางนำโดยกัปตันทีม มาโกโตะ ฮาเซเบะ ร่วมด้วย เคอิซุเกะ ฮอนดะ สตาร์จากซีเอสเคเอ มอสโก, เพลย์เมกเกอร์ ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ และ ไดสุเกะ มัตสึอิ กับ ยูกิ อาเบะ โดยทิ้ง ชินจิ โอกาซากิ ยืนหน้าเป้า

ด้าน แคเมอรูน ตัวแทนจากโซนแอฟริกา ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพทีม จะส่งชุดใหญ่เต็มที่ลงฉะ ญี่ปุ่น ในเกมนัดแรกของตัวเอง

ซามูเอล เอโต้ ดาวยิงกัปตันทีมจากอินเตอร์ มิลาน จะพร้อมลงล่าตาข่ายอย่างไม่มีปัญหา หลังโดนสั่งแบนในเกมลับแข้งกับ เซอร์เบีย เนื่องจากโดนใบแดงในเกมอุ่นเครื่องกับ โปรตุเกส และก่อนหน้านี้จะมีปัญหากับ โรเจอร์ มิลล่า อดีตดาวยิงรุ่นคุณลุง จนขู่จะถอนตัวออกจากฟุตบอลโลกก็ตาม

ปอล เลอ กูแอ็น นายใหญ่ชาวฝรั่งเศส จะมีการปรับทัพจากเกมล่าสุดที่อุ่นกับ เซอร์เบีย พอสมควร โดยเรียกตัวหลักคืนทีมเต็มที่ ทั้ง เอโต้, ริโกแบร์ ซง, อาชิลล์ เอมาน่า และ สเตฟาน เอ็มเบีย

แต่ เลอ กูแอ็น เผยแล้วว่า จะมีการจัดทัพแบบเซอร์ไพรส์เล็กๆ ดร็อป อเล็กซานเดอร์ ซง มิดฟิลด์ตัวเก่งจากอาร์เซน่อล ออกจากทีมตัวจริง เปิดทางให้ แลนดรี้ เอ็นเกโม่ ลงเล่นแทน

แถม ซูเลย์มานู ฮามิดู นายทวารวัย 36 ยังจะได้ลงสนามในฐานะมือหนึ่ง แทน อิดริสส์ คาร์ลอส กาเมนี ซึ่งเป็นเจ้าของตำแหน่งเดิมตลอด 7 ปีหลังสุด หลังจากที่มีเสียงวิจารณ์ว่า กาเมนี พลาดเสียประตูง่ายๆ อยู่ตลอด

ทีมสิงโตกาฬทวีป จะจัดทีมรุกเต็มตัว ในระบบ 4-3-3 นายประตูเป็น ซูเลย์มานู ฮามิดู กองหลังใช้ สเตฟาน เอ็มเบีย, นิโคลัส เอ็นคูลู, ริโกแบร์ ซง และ เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ แดนกลางมี แลนดรี้ เอ็นเกโม่, ฌอง มาคูน และ เอยอง เอโนห์ มใช้สามแผงหน้าเป็น อาชิลล์ เอมาน่า, ซามูเอล เอโต้ และ ปิแอร์ เวโบ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ญี่ปุ่น (4-5-1) : เซอิโกะ นาราซากิ - ยูอิจิ โคมาโนะ, ยูจิ นากาซาวะ, มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ, ยูโตะ นากาโตโมะ - มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ, เคอิซุเกะ ฮอนดะ, ไดสุเกะ มัตสึอิ, ยูกิ อาเบะ - ชินจิ โอกาซากิ

แคเมอรูน (4-3-3) : ซูเลย์มานู ฮามิดู - สเตฟาน เอ็มเบีย, นิโคลัส เอ็นคูลู, ริโกแบร์ ซง, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ - แลนดรี้ เอ็นเกโม่, ฌอง มาคูน, เอยอง เอโนห์ - อาชิลล์ เอมาน่า, ซามูเอล เอโต้, ปิแอร์ เวโบ

ผู้ตัดสิน : โอเลการิโอ เบนเกเรนก้า (โปรตุเกส)