"อินทรีเหล็ก" เยอรมัน แกร่งทุกขุมกำลัง เมื่อเปิดหน้าไล่ยำใหญ่ "ซอคเกอร์สรูส์" ออสเตรเลีย ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ไปเละเทะ 4-0 ทะยานนำฝูงในศึกฟุตบอลโลก 2010 กลุ่ม ดี

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 53 ที่สนามเดอร์บัน สเตเดี้ยม ในเมืองเดอร์บัน เป็นการแข่งขันคู่ที่ 1 ในกลุ่มดี ระหว่าง "อินทรีเหล็ก" ทีมชาติเยอรมัน ตัวแทนจากทวีปยุโรป พบกับ "ซอคเกอร์สรูส์" ทีมชาติออสเตรเลีย ตัวแทนจากเอเชีย

ขุนพล "อินทรีเหล็ก" ซึ่งนำทัพโดย โยอัคคิม เลิฟ กุนซือวัย 50 ปี มอบปลอกแขนกัปตันทีมให้ ฟิลิปป์ ลาห์ม ทำทีมลงสู่สนาม พร้อมส่ง มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าตัวสำรองจากสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ลงเป็นหอกเดี่ยว โดยบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โธมัส มุลเลอร์ และ เมซุต โอซิล คอยปั้นเกม

ทางฝั่ง พิม เวอร์บีค กุนซือออสเตรเลีย ค่อนข้างมีปัญหาในการจัดทัพ เมื่อผู้เล่นในแดนหน้ายังไม่สามารถไว้ใจได้ จำเป็นต้องมอบหน้าที่หน้าเป้าให้กับ ทิม เคฮิลล์ กองกลางจอมขยันจากเอฟเวอร์ตัน โดยมี ลูคัส นีล สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงคุมพื้นที่ในแนวรับ

เริ่มเกม เป็นทาง ออสเตรเลีย เป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน บุกจากขวาไปซ้าย มาในชุดสีดำล้วน ทางฝั่งเยอรมัน มาในชุดเสื้อขาว ถุงเท้าขาว กางเกงดำ เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 4 เป็น ออสเตรเลีย ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา ลุค วิลเชียร์ เปิดเข้ามากลางประตู ทิม เคฮิลล์ โขกเหน่งโดนบล็อกออกมาเข้าทาง ริชาร์ด การ์เซีย ยิงสวนเข้าไปอีกที แต่ก็ดดนเคลียร์ทิ้งไปได้

น.8 แม้เริ่มต้นเกมมาเป็นทาง ออสเตรเลีย ที่ทำได้หวือหวากว่า แต่เป็น เยอรมัน ที่เป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน เมื่อ เมซุต โอซิล แทงบอลให้ โธมัส มุลเลอร์ หลุดเข้ากรอบเขตโทษทางด้านขวาก่อนตวัดกลับมาหน้าประตู บอลทะลักไปทางเสาสอง ลูคัส โพดอลสกี้ วิ่งเข้ามาซัดเปรี้ยงเดียว มาร์ค ชวาร์เซอร์ ปัดได้แต่ไม่พ้น บอลเข้าไปตุงตาข่าย เยอรมัน ออกนำ 1-0

น.19 หลังได้ประตูออกนำเร็ว เยอรมัน เล่นแบบผ่อนคลาย ค่อยๆ เซ็ตบอลง่ายๆ แต่ก็มาโดน ออสเตรเลีย สวนกลับมาทางริมเส้นฝั่งขวา ลุค วิลเชียร์ เติมเกมขึ้นสูงเปิดย้อยกลับมาทางเสาสอง เจสัน คูลิน่า เทกตัวขึ้นโขกข้ามคาน

น.24 เยอรมัน ทำเกมรุกเร็วขึ้นมาบ้าง โดยขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย ลูคัส โพดอลสกี้ เปิดเข้ากลางให้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ แปหลุดกรอบอย่างเหลือเชื่อ แต่ให้หลัง 2 นาที โคลเซ่ ก็ไม่พลาดโอกาสทอง จากลูกเปิดทางฝั่งขวาอย่างแม่นยำของ ฟิลิปป์ ลาห์ม ให้หัวหอกเจ้าเวหาโแบมาโขกเต็มกบาลผ่านมือ มาร์ค ชวาร์เซอร์ เป็นประตูหนีห่าง 2-0

น.31 ผ่านครึ่งชั่วโมง เกมโดยรวมก็ยังเป็นทัพอินทรีเหล็กที่ทำได้หนือกว่า และก็เกือบได้เพิ่มอีกลูก จากจังหวะที่ มิโรสลาฟ โคลเซ่ แทงบอลให้ เมซุต โอซิล หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษทางด้านขวา ก่อนจะโชว์เหนือชิพบอลข้ามตัว มาร์ค ชวาร์เซอร์ แต่ว่าเบาเกินไป ลูคัส นีล ตามมาเตะทิ้งได้ทัน

น.39 เกมรุกของทัพเยอรมัน ก็ยังทำงานได้อยู่เรื่อยๆ มีลุ้นอีกครั้งเมื่อ เมซุต โอซิล ยกบอลข้ามหัวแผงหลังซอคเกอร์สรูส์ ให้ ฟิลิปป์ ลาห์ม หลุดถึงสุดเส้นฝั่งขวาก่อนจะตวัดเข้าใน โดยมี ซามี่ เคดิร่า โถมเข้ามาโหม่ง แต่ก็หลุดกรอบออกไป

จบครึ่งแรก เยอรมัน ออกนำ ออสเตรเลีย 2-0

ครึ่งหลัง พิม เวอร์บีค กุนซือทัพซ็อคเกอร์สรูส์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นทันที โดยถอด วินซ์ เกรลล่า กองกลางตัวรับจากสโมสร แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ออก แล้วส่ง เบร็ตต์ โฮลแมน ลงสนามไปแทน

น.52 เริ่มครึ่งหลังเป็นต้นมา ออสเตรเลีย ค่อนข้างที่จะเล่นได้ดีผิดหูผิดตาไปจากครึ่งแรก และมาได้โอกาสลุ้นจาก เบร็ตต์ โฮลแมน ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ล็อกบอลหลบ อาร์เน่ ฟรีดริช ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยซ้าย บอลหลุดเสาไกลออกไป

น.56 สถานการณ์ของพลพรรค "ซอคเกอร์สรูส์" ออสเตรเลีย ยิ่งมาย่ำแย่เพิ่มขึ้นไปอีก ตามหลังถึง 2 ลูกแล้วต้องมาเสียผู้เล่นคนสำคัญไปอีก 1 ราย เมื่อ ทิม เคฮิลล์ พุ่งเข้าเสียบหนักใส่ ลูคัส โพดอลสกี้ อย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสิน มาร์โก โรดริเกซ ชาวเม็กซิโก ไม่ลังเล ควักใบแดงไล่ เคฮิลล์ ออกทันที ทำให้ ออสเตรเลีย เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนในสนาม

น.60 เมื่อตัวผู้เล่นได้เปรียบ เยอรมัน ค่อนข้างจะทำเกมได้อย่างสบายใจ และเกือบได้ประตูเพิ่ม ในจังหวะที่ ซามี่ เคดิร่า ลุยเข้าเขตโทษโดนสะกิดนิดนึง บอลทะลักไปถึง มิโรสลาฟ โคลเซ่ ได้ยิงในกรอบโล่งๆ ไม่ถึง 10 หลา ถูก มาร์ค ชวาร์เซอร์ บล็อกออกมา โคลเซ่ เปิดยัดเข้าในอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีเพื่อนเข้าซ้ำทัน

น.68 เยอรมัน ครองเกมไว้ได้เกือบทั้งหมด แล้วก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-0 ในจังหวะที่ ลูคัส โพดอลสกี้ แทงบอลให้ โธมัส มุลเลอร์ หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนที่จะล็อกหลบกองหลังจิงโจ้ แล้วยิงเล่นทางด้วยขวา บอลกระแทกเสาในเข้าประตูไป

น.70 ให้หลังเพียงแค่นาทีเดียว หลังจากที่ คาเคา ถูกส่งลงสนามแทน มิโรสลาฟ โคลเซ่ ในนาทีที่ 69 กองหน้าจากสตุ๊ดการ์ท ก็แผงฤทธิ์ทันที เมื่อ เมซุต โอซิล หลุดเข้าเขตโทาฝั่งซ้ายก่อนเปิดตักเข้ากลางให้ คาเคา วิ่งเข้ามาแปง่ายๆ ให้สกอร์หนีห่างออกไปเป็น 4-0

น.81 พอได้ประตูนำห่างเยอะแล้ว เยอรมัน เริ่มเพลาเกมลงบ้าง พร้อมทั้งทยอยส่งผู้เล่นสำรองมาเคาะสนิม โดยส่ง มาร์โค มาริน ลงมาแทน ลูคัส โพดอลสกี้ หลังจากที่ส่งมาริโอ โกเมซ ลงมาแทน เมซุต โอซิล ในนาทีที่ 74

ช่วงเวลาที่เหลือ ออสเตรเลีย ยังพยายามบุกทวงประตูคืน แต่ก็โดน เยอรมัน โต้กลับมาเป็นระยะๆ สุดท้ายก็ไม่มีประตูเพิ่มเติม จบ 90 นาที เยอรมัน ถล่มเละ ออสเตรเลีย 4-0 ขึ้นนำจ่าฝูงในกลุ่มดี

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติเยอรมัน
มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม, อาร์เน่ ฟรีดริช, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ - ซามี่ เคดิร่า, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล (มาริโอ โกเมซ 74), ลูคัส โพดอลสกี้ (มาร์โค มาริน 81) - มิโรสลาฟ โคลเซ่ (คาเคา 69)
สำรองไม่ได้ใช้
ทิม วีเซ่, ฮันส์-ยอร์ก บุทท์ - มาร์เซลล์ ยานเซ่น, แซร์ดาร์ ทาสซี่, เดนนิส อาโอโก้, เยโรม บัวเต็ง, ปีเตอร์ โทรซอฟสกี้, โทนี่ โครส, สเตฟาน คีสลิงก์

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติออสเตรเลีย
มาร์ค ชวาร์เซอร์ - ลุค วิลเชียร์, เคร็ก มัวร์, ลูคัส นีล, สกอตต์ ชิปเปอร์ฟิลด์ - คาร์ล วาเลอรี่, วินซ์ เกรลล่า (เบร็ตต์ โฮลแมน 46) - เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน (ไมล์ เยดินัค 74), เจสัน คูลิน่า, ริชาร์ด การ์เซีย (นิกิต้า รูคาวิตส์ย่า 64) - ทิม เคฮิลล์
สำรองไม่ได้ใช้
อดัม เฟเดริชี่, ยูจีน กาเลโควิช - ไมเคิ่ล โบแชมป์, มาร์ค มิลลิแกน, เดวิด คาร์นี่ย์, แฮร์รี่ คีเวลล์, ดาริโอ วิโดซิช, มาร์ค เบรสชาโน่, โจซัว เคนเนดี้

ผู้ตัดสิน : มาร์โก โรดริเกซ (เม็กซิโก)