7M SPORTS เพิ่มเป็นไซต์โปรด 
สิงโตสุดเซ็ง!จาบูลานี่ทำพิษ กรีนรับหลุดสหรัฐฯตีเจ๊า1-1
13/06/2010  ที่มา  sportfm
ขนาด: A A A

"สิงโตคำราม" อังกฤษ คำรามไม่ออก เมื่อโดนพิษของ "จาบูลานี่" ในลูกยิงไกลของ เดมพ์ซี่ย์ ให้ สหรัฐฯ ตีเสมอ 1-1 หลังจากที่ เจอร์ราร์ด ยิงนำไปตั้งแต่นาทีที่ 4 ทำให้เก็บไปทีมละ 1 แต้ม ในสาย ซี


การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ที่สนามรอยัล บาโฟเกง สเตเดี้ยม   ในเมืองรัสเทนเบิร์ก เป็นการแข่งขันคู่ที่ 1 ในสายซี ระหว่าง "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชน ตัวแทนจาทวีปยุโรป อดีตแชมป์โลกเมื่อปี 1966 พบกับ "พญาอินทรี" ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ตัวแทนจากทวีปอเมริกา

ทีมชาติอังกฤษ ซึ่งนำทัพโดย ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือชาวอิตาลี นำลูกทีมลงสนามในระบบ 4-4-2 ใช้ โรเบิร์ต กรีน เป็นผู้รักษาประตู โดยมี จอห์น เทอร์รี่ จับคู่กับ เลดลี่ย์ คิง จับคู่ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แดนกลางหุบ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เข้ามายืนคู่กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ในแดนกลาง แผงกองหน้าใช้บริการ เวย์น รูนี่ย์ กับ เอมิล เฮสกี้

ส่วนฝั่งทีมชาติสหรัฐฯ บ็อบ แบร๊ดลี่ย์ ผู้จัดการทีมจอมวางแผน ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดของทีมลงสนามในระบบ 4-4-2 มี ทิม ฮาวเวิร์ด เป็นผู้รักษาประตู แนวรับเชื่อใจ เจย์ เดอเมริต คู่กับ โอกูชี่ ออนเยวู ตัวรุกริมเส้น 2 ข้าง คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ กับ แลนดอน โดโนแวน คู่หัวหอก ร็อบบี้ ฟินด์ลี่ ยืนคู่กับ โจซี่ อัลติดอร์

เริ่มเกมเป็น สหรัฐฯ ได้เขี่ยบอลก่อน บุกจากขวาไปซ้าย มาในชุดดำคาดขาว ส่วนทีมชาติอังกฤษ มาในชุดขาวล้วน และได้บุกก่อนเป็นครั้งแรกในนาทีที่ 4 เท่านั้น พลพรรคสิงโต ก็ได้คำรามกันลั่น เมื่อได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะทำชิ่งที่ เวย์น รูนี่ย์ จ่ายให้กับ เอมิล เฮสกี้ ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะป้ายต่อให้กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด หลุดเข้าเขตโทษแล้วจิ้มด้วยหัวเกือกย้อยตัว ทิม ฮาวเวิร์ด เข้าไปทางเสาแรก เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว

น.13 หนังจากโดนเจาะตาข่ายอย่างรวดเร็ว ขุนพลพญาอินทรี พยายามตั้งเกมรุกเข้าสู้ แล้วมาได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เป็น แลนดอน โดโนแวน เปิดโค้งเข้ามาลุ้น โอกูชี่ ออนเยวู กองหลังเติมขึ้นมาโขก แต่บอลก็ข้ามคาน

น.19 สหรัฐฯ เริ่มทำเกมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง ในจังหวะที่ แลนดอน โดโนแวน โยนจากทางกราบขวาให้ โจซี่ อัลติดอร์ โขกเช็ดหลุดกรอบนิดเดียว นาทีต่อมา อังกฤษ ใช้จังหวะโต้กลับเร็ว เวย์น รูนี่ย์ จ่ายบอลให้กับ อารอน เลนน่อน หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษทางฝั่งขวา แต่จังหวะเปิดยัดเข้ากลาง โดยกองหลังสหรัฐฯ เคลียร์ทิ้งได้ทัน

น.26 เจมส์ มิลเนอร์ กลายเป็นผู้โชคร้ายคนแรกที่โดนใบเหลืองแรกในเกม ซ้ำร้ายไม่พอ 5 นาทีให้หลัง ต้องโดน ฟาบิโอ คาเปลโล่ ถอดออกจากสนามทันทีหลังจากที่โชว์ฟอร์มไม่ดีตั้งแต่เริ่มเกมเป็นต้นมา โดยส่ง ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ลงไปลากเลื้อยทางฝั่งซ้ายแทน

น.37 พอลงสนามมาประจำการทางฝั่งซ้าย ไรท์ ฟิลลิปส์ ก็สร้างปัญหาให้กับแผงหลัง สหรัฐฯ ได้ทันที จังหวะที่รับบอลคืนมาจาก แอชลี่ย์ โคล ก่อนที่จะซัดด้วยขวาหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย บอลปลิ้นออกเสาไกลไป

น.40 ความพยายามของทีมชาติสหรัฐฯ มาเป็นผลในช่วงท้ายเกม เมื่อสามารถทวงประตูตีเสมอคืนได้เป็น 1-1 ในจังหวะที่ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ม้วนบอลหนี เจอร์ราร์ด ได้ที่หน้าเขตโทษ ก่อนที่จะยิงด้วยซ้ายระยะ 22 หลา บอลพุ่งเข้าเขตโทษ โรเบิร์ต กรีน รับบอลหลุดมือกลิ้งเข้าประตูไป ทั้งๆ ที่ลูกยิงของ เดมพ์ซี่ย์ ไม่แรงเท่าที่ควร

จบครึ่งแรก อังกษ โดน "จาบูลานี่" ทำพิษ ให้เสมอกับ สหรัฐฯ อยู่ 1-1

ครึ่งหลัง ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือจอมเฮี๊ยบทีมชาติอังกฤษ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกราย ถอด เลดลี่ย์ คิง ที่เล่นได้ไม่ดีออก แล้วส่ง เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลังจากสโมสร ลิเวอร์พูล ลงไปประจำการในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

น.52 ทีมชาติอังกฤษ ได้โอกาสทองที่จะพังประตูขึ้นนำ เมื่อกองหลังฝั่งตรงข้ามเคลียรืบอลไม่ขาด มาเข้าทาง อารอน เลนน่อน เบิ้ลจังหวะเดียวต่อให้ เอมิล เฮสกี้ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับนายทวารอเมริกา แต่จังหวะยิงกลับยิงไปตรงตัว ทิม ฮาวเวิร์ด รับไว้อย่างเหนียวหนึบ

น.61 เกมเนือยๆ ลงพักใหญ่ ทั้งสองทีมเสียบอลในพื้นที่สุดท้าย แต่เป็นสหรัฐฯ ที่ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิก ทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แลนดอน โดโนแวน กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาหน้าประตู คาร์ลอส โบคาเนกร้า โฉบเข้ามาโหม่ง หลุดกรอบออกไป

น.63 พอเจาะเข้าเขตโทษไม่ได้ อังกฤษ หันมาใช้การยิงไกลแทน จาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยิงระยะ 25 หลา โดน ทิม ฮาวเวิร์ด ปัดออกหลังไป ต่อเนื่องด้วยลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แลมพาร์ด เปิดข้ามไปที่เสาสอง เกล็น จอห์นสัน เก็บบอลลงหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดด้วยซ้ายมุมแคบ แต่ก็หลุดกรอบออกไป

น.65 สหรัฐฯ อาศัยจังหวะโต้กลับเร็ว โดยขึ้นเกมรุกมาทางซ้าย โจซี่ อัลติดอร์ กระชากเข้าเขตโทษ วิ่งแซง เจมี่ คาร์ราเกอร์ เข้าไปซัดด้วยขวามุมแคบ โรเบิร์ต กรีน ไปไปชนคาน ก่อนที่ เทอร์รี่ จะเคลียร์ทิ้งออกไป

น.76 อังกฤษ ยังเป็นฝ่ายบุกหนักมากกว่า และมีจังหวะหวาดเสียวมาเป็นพักๆ เวย์น รูนี่ย์ จ่ายบอลให้ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย วิ่งเข้ามาแปทันทีแบบไม่จับ บอลพุ่งเข้าไปตรงตัว ทิม ฮาวเวิร์ด ปัดทิ้งออกไปได้ทัน

น.84 กองทัพสิงโตคำราม หลังจากที่ส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงมาเสริมแนวรุกในนาทีที่ 79 ก็บุกกดดันเข้าใส่อย่างหนัก มีโอกาสอีกครั้ง เมื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แทงบอลให้ อารอน เลนน่อน ทางฝั่งขวา ก่อนที่ปีกตัวจี้ดจะเปิดคืนกลับเข้ามากลาง แต่ แลมพาร์ด ยิงวืดไปอย่างน่าเสียดาย

เวลาที่เหลือ อังกฤษ พยายามบุกอย่างหนัก แต่ก็ทำไม่ได้ ทำให้จบ 90 นาที ทั้งสองทีมเสมอกันไป 1-1 เก็บได้ทีมละ 1 แต้มในสาย ซี


รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติอังกฤษ
โรเบิร์ต กรีน - เกล็น จอห์นสัน, เลดลี่ย์ คิง (เจมี่ คาร์ราเกอร์ 46), จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - อารอน เลนน่อน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตันทีม), แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เจมส์ มิลเนอร์ (ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ 31) - เวย์น รูนี่ย์, เอมิล เฮสกี้ (ปีเตอร์ เคร้าช์ 79)
สำรองไม่ได้ใช้
โจ ฮาร์ท, เดวิด เจมส์ - เเมทธิว อัพสัน, สตีเฟ่น วอร์น็อค, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ไมเคิล คาร์ริค, เเกเร็ธ เเบร์รี่, โจ โคล, เจอร์เมน เดโฟ

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติสหรัฐอเมริกา
ทิม ฮาวเวิร์ด - สตีฟ เชรุนโดโล่, เจย์ เดอเมริต, โอกูชี่ ออนเยวู, คาร์ลอส โบคาเนกร้า (กัปตันทีม) - คลินท์ เดมพ์ซี่ย์, ริคาร์โด้ คล้าร์ก, ไมเคิ่ล แบร๊ดลี่ย์, แลนดอน โดโนแวน - ร็อบบี้ ฟินด์ลี่ (เอ๊ดสัน บั๊ดเดิ้ล 77), โจซี่ อัลติดอร์ (สจ็วร์ต โฮลเด้น 86)
สำรองไม่ได้ใช้
แบร็ด กูซาน, มาร์คุส ฮาห์นีมานน์ - คลาเรนซ์ กู๊ดสัน, โจนาธาน สเป็คเตอร์, โจนาธาน บอร์นสไตน์, เบนนี่ ไฟฮาเบอร์, โจเซ่ ฟรานซิสโก้ ตอร์เรส, เมาริซ เอดู, ดามาร์คัส บีสลี่ย์, เฮอร์คิวลิซ โกเมซ

ผู้ตัดสิน : คาร์ลอส ซิมอน (บราซิล)

เมือง&สนามบอล
ตารางคะแนน
  • A
  • B
  • C
  • D
  • E
  • F
  • G
  • H
    หากไม่มีการระบุเวลาการแข่งขันใด ให้ยึดเวลาของ GMT+0800 เป็นหลักเท่านั้น
    เวบไซด์นี้สงวนลิขสิทธิ์โดย www.7mth.com Copyright © 2003 -