7M SPORTS เพิ่มเป็นไซต์โปรด 
กระทิงทอง! อิเนียสต้าฮีโร่ซัดโทนต่อเวลาคว้าแชมป์โลกสมัยแรก
12/07/2010  ที่มา  msnฟุตบอล
ขนาด: A A A

อันเดรส อิเนียสต้า กลายเป็นวีรบุรุษที่นำทีม “กระทิงดุ” สเปน คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกเมื่อทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษในนาทีที่ 116 เฉือนเอาชนะ “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ได้อย่างหวุดหวิดที่สุด


ฟุตบอลโลก 2010 รอบชิงชนะเลิศ (11 ก.ค.53)

ฮอลแลนด์ 0-1 สเปน (เสมอในเวลา 90 นาที 0-0)

สนาม : ซอคเกอร์ ซิตี้ สเตเดี้ยม

ประตู :

0-1 อิเนียสต้า 116

เกมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2010 เป็นการพบกันของสองยอดทีมที่ผ่านทะลุมาถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยเป็น “อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ ที่เข้าชิงเป็นครั้งที่ 3 และ “กระทิงดุ” สเปน ที่ผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกด้วยกัน โดยทั้งสองทีมไม่เคยเป็นแชมป์โลกมาก่อนเท่ากับว่าจะมีทีมใดทีมหนึ่งที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกได้เป็นสมัยแรก และเป็นแชมป์โลกทีมที่ 8 ในฟุตบอลโลก

ฮอลแลนด์ ลงสนามในเกมนี้โดยใช้ผู้เล่นชุดหลักเดิมๆที่ทำผลงานมาได้ดีโดยตลอด โดยยังได้ ไนเจล เดอ ยอง กลับมาช่วยเกมแดนกลางด้วย ขณะที่ สเปน ยึดผู้เล่นชุดเดียวกับที่เอาชนะเยอรมัน ได้ในรอบรองชนะเลิศ โดยยังดร็อป เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น

เกมเริ่มต้นมาทางด้าน ฮอลแลนด์ ในชุดสีส้มตัวเก่งเนื่องจากมีชื่อเป็นทีมเหย้า ก็มีเหตุที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ไปสอยใส่เข่าของ เซร์คิโอ บุสเกตส์ กันตั้งแต่นาทีแรกเลยแต่ก็ไม่มีอะไรยังเล่นต่อกันได้สบาย

ด้าน สเปน ในชุดสีกรมท่าก็พยายามจะครองบอลเพื่อดึงจังหวะเกมเข้าทางตัวเองให้มากที่สุด และเกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำเมื่อได้ฟรีคิกระยะไกล ชาบี้ เปิดเข้าไปที่กลางประตู ลูกมาถึง รามอส ได้พุ่งโฉบมาขวิดบอลแต่ไม่ผ่าน สเตเคเลนเบิร์ก ที่ปัดได้ ปิเก้ พยายามจะเก็บบอลและปาดกลับเข้ามาก็โดนสกัดทิ้งได้หวุดหวิด

แต่ สเปน ก็เกือบจะเสียท่าเหมือนกัน เมื่อ อลอนโซ่ จ่ายบอลตัดเข้ากลางมาให้ บุสเกตส์ แต่ดันเตะวืดไปโดน เคาท์?ฉกเอาไปได้แต่ใจร้อนเกินไปเลือกที่จะยิงไกลก็เบาไม่มีปัญหาเลยสำหรับ กาซียาส ที่จะรับได้

ทีมกระทิงดุยังเล่นได้เหนือกว่า หลังจากที่มีจังหวะจ่ายทะลุช่องได้หลายครั้ง ก็มีโอกาสของ เซร์คิโอ รามอส ที่กระชากหนี ฟาน บรองฮอร์สท์ หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนที่จะพยายามเปิดยัดเข้าไปแต่ว่าโดนสกัดทิ้งได้หวุดหวิด

จากนั้น ชาบี้ อลอนโซ่ ก็เปิดครอสเข้าไปให้ บีย่า ได้วอลเล่ย์ด้วยอีซ้ายที่เสาไกล แต่บอลก็เข้าหน้าต่างไป ซึ่งก็ถือว่า 15 นาทีแรกนั้น เกมเป็นของ สเปน แทบจะข้างเดียวจริงๆ โดยฮอลแลนด์ ยังไม่สามารถตั้งเกมได้

แต่หลัจากนั้นทีมดัตช์ ก็มาเรียกได้ทั้งฟรีคิกและใบเหลืองให้ ปูโยล ที่ไปเสียบใส่ ร็อบเบน เข้าที่ข้อเท้า จังหวะฟรีคิกระยะราว 30 หลา สไนจ์เดอร์ ที่กดไป 5 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ก็ขอลองส่องไกลเลยแต่ว่าก็ตรงตัว กาซียาส

เกมเริ่มที่จะอัดกันเดือดมีใบเหลืองแจกถี่ โดยที่โดนเพิ่มไปอีก 2 คนก็คือ ฟาน บอมเมล และ รามอส จากการเข้าเสียบคู่แข่งแบบอันตราย โดยที่ช่วงต้นเกม ฟาน เพอร์ซี่ ก็โดนไปเป็นคนแรกแล้วเช่นกัน

อีกคนที่โดนใบเหลืองไปเช่นกันก็คือ เดอ ยอง ที่ไปกระโดดถีบยอดอกใส่ ชาบี้ อลอนโซ่ จนร่วงกลางสนาม ก่อนที่เกมจะตรึงกำลังกันอีกครั้ง แต่ก็มีจังหวะปัญหาในลูกที่ ฮอลแลนด์ พยายามจะคืนบอลให้สเปน แต่ดันหวดแม่นบอลกระเด้งจะเข้าประตู กาซียาส ต้องปัดออกไปก่อนจะหันมามองค้อนด้วยความไม่พอใจ แต่ ฟาน เพอร์ซี่ ก็เตะมุมแปเบาๆคืนให้เป็นการแสดงสปิริตอีกครั้ง

เกมตึงๆกันอยู่นาน มาถึงนาทีที่ 36 ฮอลแลนด์ ก็เกือบได้เฮเหมือนกันในจังหวะลูกเตะมุมที่เล่นลูกสูตรกัน โดย สไนจ์เดอร์ เปิดมาตรงหัวกะโหลก ฟาน บอมเมล พยายามเปิดต่อไปที่เสาไกล แต่มาไธจ์เซ่น กลับซัดวืดไปอย่างน่าเสียดาย

สเปน ก็พยายามจะโต้ตอบทันที โดยเป็นจังหวะโซโล่เดี่ยวของ เปโดร ท่ี่ได้บอลในแดนฮอลแลนด์ ก่อนกระชากโซโล่พาบอลไปถึงระยะ 30 หลาตัดสินใจยิงด้วยซ้ายแต่ก็หลุดกรอบออกไปไกล

ในช่วงท้ายครึ่งแรก เกมกลับมาเป็นของสเปน ที่ครองบอลต่อเกมกันได้อีกครั้ง โดยฮอลแลนด์ ก็ยังพยายามใช้เกมหนักเล่นงานเหมือนเดิม ซึ่งก็มีช็อตปะทะที่ สไนจ์เดอร์ ไปวางใส่เข่าของ บุสเกตส์ ดีที่ไม่เป็นอะไร โดยจังหวะนี้ อลอนโซ่ ตัดสินใจยิงเลยจากระยะ 40 หลาแต่ก็ห่างเป้าไปเยอะ

แต่ฮอลแลนด์ ก็ยังมาได้ลุ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรกโดยเป็นจังหวะฟรีคิกที่เปิดมาลุ้นกลางประตู บอลโดนสเปน สกัดมาได้แบบทุลักทุเล ก่อนที่จะเป็น ร็อบเบน เก็บบอลได้ก่อนจะกระชากตัดเข้าในแล้วยิงยัดเสาแรกด้วยซ้าย แต่ กาซียาส ก็ยังปัดได้ ก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกด้วยการเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังเกมกลับมาลงสนามกันใหม่ทั้งสองฝ่ายเปิดหน้าแลกกันมากกว่าเดิมโดยเร่งจังหวะเกมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นเกมคนละรูปแบบกับครึ่งแรกอย่างสิ้นเชิง

ฮอลแลนด์ มีจังหวะที่ ร็อบเบน ได้ลองลากตัดมายิงเสาแรกตามสูตรแต่ก็หลุดกรอบ ขณะที่ สเปน ได้ฟรีคิกระยะอันตรายประมาณ 25 หลา ชาบี้ เอร์นานเดซ ขอปั่นเองบอลพุ่งโค้งเกือบเข้าสามเหลี่ยมเลยทีเดียว ซึ่ง ฟาน บรอง?ฮอร์สต์ ที่เข้าเสียบรามอส จนเป็นฟรีคิกก็โดนใบเหลืองไปด้วย

แต่เกมก็ยังหนักต่อเนื่อง โดย ไฮติงก้า มาโดนใบเหลืองอีกใบจากการเข้าปะทะใส่บีย่า ก่อนที่ เดล บอสเก้ จะส่งเฆซุส นาบาส ลงมาแทนเปโดร ที่เล่นไม่ออก แต่ก็มาโดนป่วนด้วยจังหวะเปิดของ ฮอลแลนด์ ที่ยังเข้าเป้าเกือบตลอด โดยเป็น เคาท์ ที่ขึ้นโขกเหนือปิเก้ แต่ก็หลุดกรอบไป

ถึงนาทีที่ 61 ฮอลแลนด์ ก็ได้จังหวะดีที่สุดในเกมเมื่อ สไนจ์เดอร์ แทงบอลทะลุช่องให้ ร็อบเบน หลุดเดี่ยวเข้าไปได้ดวลกับ กาซียาาส และพยายามจะยิงหลอกแต่ว่ากาซียาส ที่เหมือนจะพุ่งผิดทางก็ยังติดขาไปอีก

ร็อบเบน ได้โอกาสวอลเล่ย์ด้วยขวาอีกครั้งในจังหวะลูกเตะมุมแต่ก็ห่างเป้าไปไกล ด้าน สเปน ก็ไม่ได้ขวัญเสียเริ่มที่จะจู่โจมโดยใช้ความเร็วของ นาบาส สร้างความปั่นป่วนให้กับ ฟาน บรอง ฮอร์สต์ ได้ดีพอสมควร

นาทีที่ 69 นาบาส มีจังหวะกระชากหนีได้สวยก่อนจะเปิดเข้าไป กองหลังฮอลแลนด์ เตะสกัดกันพลาดบอลปลิ้นมาเข้าทาง บีย่า ได้ยิงระยะเผาขนแต่ว่าสเตเคเลนเบิร์ก ก็ซูเปอร์เซฟได้อย่างสุดยอดไม่แพ้กัน

ช่วงนี้ สเปน เริ่มโหมมีจังหวะทำชิ่งสวยๆได้หลายครั้ง และ บีย่า ก็มีจังหวะได้ลุ้นสับไก 2-3 หนแต่ก็ยังไม่เข้าเป้า แต่โอกาสที่ใกล้เคียงกลับมาจากลูกเตะมุม ชาบี้ เปิดไปกลางประตู รามอส สอดมาโขกเต็มหัวคล้ายๆที่ปูโยล เคยโขกเยอรมัน แต่กดไม่ลงบอลข้ามคานออกไปไกล

เกมของกระทิงดุกำลังเล่นกันสนุกเท้าแต่ก็เกือบเสียท่าเหมือนกันในจังหวะสาดบอลทิ้งกันธรรมดาของฮอลแลนด์ บอลโดนโหม่งเช็ดไปถึง ร็อบเบน ที่สปีดควบไปเอาบอลแซงหน้า ปูโยล ก่อนจะเข้าไปถึงเขตโทษแต่โดนรั้งไว้นิดนึงก่อนจะพยายามล็อกหลบ กาซียาส แต่ก็ไม่พ้น ซึ่งร็อบเบน ไม่พอใจอย่างมากและพยายามโวยเปา เว็บบ์ จนสุดท้ายก็โดนใบเหลืองเอง

สเปน พยายามแก้เกมในช่วง 5 นาทีสุดท้ายโดยส่ง เซสก์ ฟาเบรกาส ลงมาแทน ชาบี้ อลอนโซ่ โดยที่ฮอลแลนด์ ปรับเกมมาใช้ความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุกที่เร็วและเทคนิคจัดจ้านไว้เล่นงานสเปน คืนเหมือนกันและก็ดึงโมเมนตัมเกมกลับมาได้ไม่น้อย แต่สุดท้ายเกมก็เสมอกันไป 0-0 ใน 90 นาที ต้องเล่นต่อเวลากันอีก 30 นาที

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง แค่ 2 นาทีก็มีเสียวเมื่อสเปน ต่อบอลกันขึ้นมาก่อนจะโดนฮอลแลนด์ ดักถึง 3 ช็อตซ้อนๆในเขตโทษ แต่เว็บบ์ ก็ให้เป็นแค่ลูกเตะมุมเท่านั้น

สเปน ได้โอกาสทองที่ชัดเจนมากๆเมื่อ อิเนียสต้า ได้แทงบอลทะลุช่องให้ เซสก์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ สเตเคเลนเบิร์ก แต่ก็ยิงไม่ผ่านเซฟอีก ขณะที่ ฮอลแลนด์ โต้กลับมา สไนจ์เดอร์ ทำชิ่งให้ร็อบเบน ทะลุเข้าไปในเขตโทษเหมือนกันแต่ยิงไม่ได้ก็เลยโดนสกัดออกไป จังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุม ฟาน บอมเมลก็โขกข้ามคานออกไปอีก

อีกครั้งที่ สเปน หลุดเข้าไปเป็น อิเนียสต้า ที่ได้ทะลุเข้าไปบ้างโดยมีทั้งบีย่า และ นาบาส ตีคู่ไปด้วยแต่กลับเลือกจะเลี้ยงเองสุดท้ายก็ทิ้งโอกาสพลาดไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ ฮอลแลนด์ จะเปลี่ยนเอา ฟาน เดอร์ ฟาร์ท มาแทน เด ยอง

นาทีที่ 100 สเปน โต้กลับอีกครั้งโดยคราวนี้ เป็นนาบาส ที่ได้บอลทะลุเข้ามาในเขตโทษและพยายามจะยิงยัดเสาแรกแต่บอลไปแฉลบ ฟาน บรองฮอร์สท์ ก่อนจะพุ่งเข้าหน้าต่าง ทำเอา สเตเคเลนเบิร์ก ยิ้มแหยที่รอดตัวเพราะล้มผิดทางไปแล้ว

อีก 3 นาทีถัดมา สเปน ทะลุขึ้นมาอีกครั้ง เป็นเซสก์ ที่โซโล่เดี่ยวจากกลางสนามแหวกทะลุมาได้สวยก่อนจะตัดสินใจยิงเองหน้าเขตโทษบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไป ซึ่ง ฮอลแลนด์ ต้องส่ง บราฟไฮม์ ลงมาเสริมแนวรับที่เริ่มออกอาการรวน โดยลงมาแทนกัปตันจอมเก๋า ฟาน บรองฮอร์สท์ ที่หมดสภาพไปแล้ว ก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกของการต่อเวลา

เดล บอสเก้ ส่งตอร์เรส ลงมาแทนบีย่า ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม โดยที่เกมมามีเหตุการณ์สำคัญเมื่อ ไฮติงก้า ไปดึง อิเนียสต้า ในจังหวะทำชิ่งหนึ่งสองกับชาบี้ ทำให้โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงแลกกับการรอดพ้นการเสียประตูของทีม

แต่ลูกฟรีคิกระยะอันตรายนี้ ชาบี้ ก็ปั่นข้ามคานออกไปไกล ขณะที่ ฮอลแลนด์ ก็ได้ฟรีคิกระยะไกล 35 หลา สไนจ์เดอร์ ซัดไปแฉลบกำแพงออกไปแบบได้เสียวเหมือนกัน

และแล้วถึงนาทีที่ 117 ก็มีประตูแรกของเกมเกิดขึ้นจนได้ในจังหวะสวนกลับเร็ว บอลมาทางซ้าย ตอร์เรส พยายามเปิดเข้าไปบอลถูกดักได้แต่ก็ยังมี เซสก์ เก็บบอลได้หน้าเขตโทษ และใจเย็นพอที่จะแต่งบอลแล้วแทงทะลุให้อิเนียสต้า เกี่ยวบอลได้ก่อนจะซัดเข้าข้อบอลพุ่งเสียบเสาอย่างสวยงาม เป็นประตูนำประวัติศาสตร์ของสเปน 1-0 ในนัดชิงฟุตบอลโลก และกลายเป็นประตูโทนที่ทำให้สเปน ได้แชมป์โลกสมัยแรกไปครองอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนฮอลแลนด์ ต้องผิดหวังเป็นครั้งที่ 3 ในนัดชิงชนะเลิศ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ฮอลแลนด์ : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก, เกรกอรี่ ฟาน เดอ วีล, จอนนี่ ไฮติงก้า, โยริส มาไธจ์เซ่น, โจวานนี่ ฟาน บรองฮอร์สต์ (บราฟไฮม์ 104) , มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ยอง (ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท 99) , เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, เดิร์ค เคาท์ (เอลเจโร เอเลีย 71) , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

สเปน : อีเคร์ กาซียาส, เซร์คิโอ รามอส, เกราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล, โจน คัปเดบิล่า, เซร์คิโอ บุสเกตส์, ชาบี้ เอร์นานเดซ, ชาบี้ อลอนโซ่ (เซสก์ 87), อันเดรส อิเนียสต้า, ดาวิด บีย่า (เฟร์นานโด ตอร์เรส 105), เปโดร โรดริเกวซ (เฆซุส นาบาส 60)

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

เมือง&สนามบอล
ตารางคะแนน
  • A
  • B
  • C
  • D
  • E
  • F
  • G
  • H
    หากไม่มีการระบุเวลาการแข่งขันใด ให้ยึดเวลาของ GMT+0800 เป็นหลักเท่านั้น
    เวบไซด์นี้สงวนลิขสิทธิ์โดย www.7mth.com Copyright © 2003 -