แฟร้งค์ แลมพาร์ด ห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษ ของ เชลซี ยกมือหนุนให้นำเทคโนโลยีมาช่วยงานผู้ตัดสิน หลังเจอกับตัวเมื่อลูกยิงที่ข้ามเส้นไปแล้วเป็นหลา กลับมีคนตาถั่วมองไม่เห็น ในเกมแพ้ เยอรมัน 4-1 จอดป้ายฟุตบอลโลก ที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางทีมชาติอังกฤษ ของ เชลซี ออกโรงสนับสนุนว่าสมควรนำเทคโนโลยีมาช่วยผู้ตัดสินได้แล้ว หลังจากลูกยิงของเขาข้ามเส้นประตูไปแบบจะแจ้ง แต่กลับโดนปฏิเสธ ในเกมฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ทีม "สิงโตคำราม" แพ้ เยอรมัน กระจุย 4-1 จอดป้ายแบบไม่ต้องแจว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ประตูที่ไม่ได้ประตูของ แลมพาร์ด เกิดขึ้นหลังจาก อังกฤษ ตีตื้นเป็น 1-2 ไม่กี่อึดใจ ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า เกมจะลงเอยแบบนี้หรือไม่ถ้า อังกฤษ ได้ประตูตีเสมอ 2-2 ตอนจบครึ่งแรก โดย แลมพาร์ด ที่ต้นครึ่งหลังก็มีจังหวะซัดฟรีคิกชนคานอีกหนึ่งที กล่าวว่า "ผมยังไม่ได้ดูภาพช้า แต่ผมคงไม่จำเป็นต้องดูหรอกมั้ง ผมรู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าบอลมันเข้าไปแล้ว อย่างน้อยก็หนึ่งหลาเห็นๆ"
"มันทำเอาผมงงไปหมดที่ไม่ได้ประตู และมันเป็นการตัดสินที่มีส่วนต่อเกมด้วย ผมไม่ได้มาอยู่ตรงนี้เพื่อหาข้อแก้ตัวว่ามันทำให้เราตกรอบ แต่ถ้าสกอร์มันเป็น 2-2 และเราลงมาเล่นอย่างที่เล่นในครึ่งหลัง เกมมันอาจจะต่างไปก็ได้ ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่ควรเอาเทคโนโลยีมาช่วย ก่อนบอลโลกเรามีการประชุม และก็ได้รู้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงกฎเป็นล้านที่แทบไม่มีผลอะไรเลย แต่ไอ้ที่มันส่งผล อย่างที่ส่งผลในเกมวันนี้ ดันไม่มีการเปลี่ยนแปลง มันเป็นเรื่องที่คิดได้ง่ายๆ ด้วยซ้ำ"
แม้สกอร์จะขาด แต่ แลมพาร์ด คิดว่า ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองทีมคุณภาพต่างกันสุดขั้ว "ผมว่าทุกคนคงเห็นแล้ว มันเป็นเรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทุกคนเห็นแล้วว่านั่นเป็นประตูที่จะทำให้เราจบครึ่งแรกด้วยผลเสมอกัน และเราก็เล่นดีกว่าหลังจากกลับมาเล่นในครึ่งหลัง และมีจังหวะยิงชนคานไปอีกทีด้วย บางทีเราอาจแสดงให้เห็นถึงความเข้าตาจน และพาซื่อเกินไป ในการพยายามบุกๆ แล้วเราก็โดนน็อกด้วยเกมโต้กลับ"
"มันคือเรื่องราวของเกม ไม่มีใครสามารถมายืนตรงนี้ และบอกผมว่า เยอรมัน เหนือกว่าเรา พวกเขาไม่ได้เหนือกว่าเราแบบสกอร์ 4-1 แต่มันมีอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นใจให้เรา และบางทีมันอาจเกิดขึ้นจากเราเองด้วยในบางจังหวะเวลา แต่อะไรๆ มันไม่เข้าทางเราเลยก็เท่านั้น" แลมพาร์ด กล่าว
ปี | ชนะเสิศ | รองชนะเสิศ | อันดับ 3 |
2006 | อิตาลี | ฝรั่งเศส | เยอรมนี |
2002 | บราซิล | เยอรมนี | ตุรกี |
1998 | ฝรั่งเศส | บราซิล | โครเอเชีย |
1994 | บราซิล | อิตาลี | สวีเดน |
1990 | เยอรมนี | อาร์เจนตินา | อิตาลี |
1986 | อาร์เจนตินา | เยอรมนี | ฝรั่งเศส |
1982 | อิตาลี | เยอรมนี | โปแลนด์ |
1978 | อาร์เจนตินา | ฮอล์แลนด์ | บราซิล |
1974 | เยอรมนี | ฮอล์แลนด์ | โปแลนด์ |
1970 | บราซิล | อิตาลี | เยอรมนี |
1966 | อังกฤษ | เยอรมนี | โปรตุเกส |
1962 | บราซิล | เชโกสโลวาเกีย | ชิลี |
1958 | บราซิล | สวีเดน | ฝรั่งเศส |
1954 | เยอรมนี | ฮังการี | ออสเตรีย |
1950 | อุรุกวัย | บราซิล | สวีเดน |
1938 | อิตาลี | ฮังการี | บราซิล |
1934 | อิตาลี | เชโกสโลวาเกีย | เยอรมนี |
1930 | อุรุกวัย | อาร์เจนตินา | อเมริกา |