แฟนบอล "สิงโตคำราม" อังกฤษ ต่างออกมาแสดงความผิดหวังสุดๆ หลังจากพ่าย "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี อย่างน่าอับอาย 4-1 ในศึกเวิลด์ คัพ 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมจวกกรรมการที่ไม่ยอมเป่าให้ลูกยิงของแฟร้งค์ แลมพาร์ด เป็นประตู ด้านเฮลมุต ครู้ก อดีตเชิ้ตดำเมืองเบียร์ ชี้เป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรงของผู้ตัดสิน
แฟนบอลชาวอังกฤษ ออกมาแสดงความไม่พอใจกับผลงานของทีมชาติอังกฤษ รวมถึงการทำหน้าที่ของ ฮอร์เก้ ลาร์ริออนด้า กรรมการชาวอุรุกวัย หลังจากทีมเป็นฝ่ายพ่าย ทีมชาติเยอรมนี ขาดลอย 4-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา
แฟนบอลผู้ดีกว่า 80,000 ชมเกมผ่านจอขนาดยักษ์ที่งานเทศกาลดนตรีแกลสตันบิวรี่ โดยพอล แฟนบอลวัย 24 ปี กล่าวหลังเห็นผลงานของทีมว่า "ผมรู้สึกหดหู่มากในตอนนี้ เราทำผลงานได้แย่มากเช่นเดียวกับผู้ตัดสิน อย่างน้อยผมก็อยู่ในที่ที่เหมาะสมที่จะชะล้างความเศร้าโศกเสียใจ"
เสียงโห่ดังขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อทัพ "สิงโตคำราม" ถูกปฏิเสธประตูที่จะทำให้พวกเขาตีเสมอเป็น 2-2 ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกจากลูกยิงของแฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ชนคานกระดอนผ่านเส้นประตูเข้าไปแล้วก่อนจะเด้งออกมา สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชมอย่างมาก โจ แฟนบอลวัย 35 ปี กล่าวว่า "เราเล่นแย่ก็จริง แต่เราถูกปล้นด้วย ผมไม่รู้ว่ากรรมการพลาดประตูนั้นได้อย่างไร พวกเยอรมนีคงบอกว่าเป็นการชดใช้ประตูเมื่อปี 1966 (รอบชิงเวิลด์ คัพ) แต่มันทำให้ผมหมดอาลัยตายอยากไปเลย"
หลังจากทัพ "อินทรีเหล็ก" ซัดประตูที่ 4 ผู้คนจำนวนมากลุกออกไปจนเกือบหมด คล้ายกับสถานการณ์ที่ผับแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน เมื่อเหลือแฟนบอลหัวรั้นเพียง 2-3 คนที่นั่งชมเกมจนเสียงนกหวีดจบเกมดังขึ้น และ เดฟ ไรท์ วัย 22 ปี กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องเดิมๆ ทุกครั้งที่เราเล่นกับ เยอรมนี ผมรู้สึกโมโหกับประตูนั้นซึ่งอาจเปลี่ยนทั้งเกมได้ เราอาจได้ประตูที่ 3 หรือ 4 ตามมา แต่ทุกประตูที่เราเสียน่าสลดใจมาก เกมรับย่ำแย่มาก เราไม่สมควรผ่านเข้ารอบ"
ด้าน ฟิล โธมัส วัย 21 ปี เพื่อนของ ไรท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เมื่อลูกที่ 2 เข้าประตูไป พวกเราก็คิดประมาณว่า โอเค ได้เลย จากนั้นทุกคนก็ยืนขึ้น และเริ่มคลั่ง แต่เยอรมนี เล่นได้ดี และเราไม่สามารถเล่นเกมของเราได้"
ขณะที่ เฮลมุต ครู้ก อดีตผู้ตัดสินชาวเยอรมนี ออกมาให้ความเห็นถึงลูกยิงของแลมพาร์ด มิดฟิลด์เชลซี "นั่นเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย ผู้ช่วยผู้ตัดสินควรจะเห็นในจังหวะนั้น มันชัดเจนว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว ผู้ช่วยผู้ตัดสินควรเห็นลูกนั้นโดยไม่ต้องดูภาพรีเพลย์ด้วยซ้ำ"
ส่วน ธีโอ ซวานซีเกอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน (เดเอฟเบ) บอกกับสถานีโทรทัศน์เมืองเบียร์ว่า เขามองเห็นจากที่นั่งของเขาบนอัฒจันทร์ว่าลูกบอลข้ามเส้นไปแล้ว "เราต้องยึดกฎกติกาที่เรามี ผมรู้สึกเห็นใจแฟนบอลของ อังกฤษ ผมยังมองเห็นจากอัฒจันทร์ว่าบอลเข้าประตูไปแล้ว"
เหตุการณ์นี้จะถูกบันทึกไว้หน้าประวัติศาสตร์ความเป็นคู่ปรับเกมลูกหนังอันยาวนานระหว่าง อังกฤษ และ เยอรมนี และยังช่วยให้เกิดเป็นข้อถกเถียงมากขึ้นว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ควรนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยผู้ตัดสินในการทำหน้าที่หรือไม่
ปี | ชนะเสิศ | รองชนะเสิศ | อันดับ 3 |
2006 | อิตาลี | ฝรั่งเศส | เยอรมนี |
2002 | บราซิล | เยอรมนี | ตุรกี |
1998 | ฝรั่งเศส | บราซิล | โครเอเชีย |
1994 | บราซิล | อิตาลี | สวีเดน |
1990 | เยอรมนี | อาร์เจนตินา | อิตาลี |
1986 | อาร์เจนตินา | เยอรมนี | ฝรั่งเศส |
1982 | อิตาลี | เยอรมนี | โปแลนด์ |
1978 | อาร์เจนตินา | ฮอล์แลนด์ | บราซิล |
1974 | เยอรมนี | ฮอล์แลนด์ | โปแลนด์ |
1970 | บราซิล | อิตาลี | เยอรมนี |
1966 | อังกฤษ | เยอรมนี | โปรตุเกส |
1962 | บราซิล | เชโกสโลวาเกีย | ชิลี |
1958 | บราซิล | สวีเดน | ฝรั่งเศส |
1954 | เยอรมนี | ฮังการี | ออสเตรีย |
1950 | อุรุกวัย | บราซิล | สวีเดน |
1938 | อิตาลี | ฮังการี | บราซิล |
1934 | อิตาลี | เชโกสโลวาเกีย | เยอรมนี |
1930 | อุรุกวัย | อาร์เจนตินา | อเมริกา |