ขุนพล "กระทิงดุ" สเปน เก็บชัยชนะในนัดสุดท้ายขึ้นอันดับ 1 ของกลุ่ม เอช เฉือนเอาชนะ ชิลี หวุดหวิด 2-1 ควงแขนกันผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เนื่องจาก สวิตเซอร์แลนด์ ทำได้เพียงแค่ เสมอ 0-0 กับ ฮอนดูรัส

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ประจำวันคืนวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 53 ที่สนาม ลอฟตัส แฟร์สเฟลด์ สเตเดี้ยม ในเมืองพริทอเรีย เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายในกลุ่ม เอช ระหว่าง ทีมชาติชิลี ตัวแทนจากทวีปอเมริกาใต้ ที่เก็บชัยมา 2 นัดซ้อน มีอยู่ 6 แต้มเต็ม พบกับ "กระทิงดุ" ทีมชาติสเปน แชมป์ยูโร 2008 ที่มีอยู่ 3 แต้ม

เริ่มเกม ทีมชาติชิลี ที่มาในชุดเสื้อแดงกางเกงน้ำเงิน บุกจากซ้ายไปขวา เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน ส่วนฝั่งทีม "กระทิงดุ" มาในชุดเยือน เสื้อสีกรมท่า กางเกงขาว เป็นฝ่ายได้ลุ้นก่อน ในนาทีที่ 5 บอลจาก โจน กัปเดบิล่า ในแดนหลังไปถึงหน้าปากประตูของชิลี เฟร์นานโด ตอร์เรส โฉบเข้าถึงบอลก่อนที่จะได้ยิงหลุดกรอบออกไป

น.10 รูปเกมค่อนข้างที่จะเปิดแลกกันไปมาแบบไม่มีใครยอมใคร ชิลี การประสานงานของ 3 ประสานในแนวรุกทำได้อย่างยอดเยี่ยม อเล็กซิส ซานเชซ แทงบอลเข้ากลางให้ ฮอร์เก้ วัลดิเวีย ต่อบอลให้ ฌอง โบเซอฌูร์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนเปิดข้ามไปให้ มาร์ค กอนซาเลซ เติมขึ้นมายิงด้วยขวา บอลข้ามคาน

น.14 ทีมชาติชิลี เริ่มทำเกมรุกได้วูบวาบน่ากลัวมากยิ่งขึ้น สามารถฉวยโอกาสจากจังหวะผิดพลาดในแดนกลางของผู้เล่นสเปน อเล็กซิส ซานเชซ ปีกตัวเก่งของทีม ได้บอลทางหน้าเขตโทษฝั่งขวา แล้วยิงทันที อิเกร์ กาซิยาส ต้องออกแรงปัดทิ้งออกไป

น.24 อย่างไรก็แล้วแต่ กลายเป็นสเปน ที่โดนบุกตลอดมาได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะวางบอลยาวของ ชาบี อลอนโซ่ ขึ้นหน้าให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ควบไปหาบอล โดน เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารชิลี ออกมาตัดบอลได้ก่อน แต่ไม่พ้นอันตรายบอลไปเข้าทาง ดาบิด บีย่า ยิงสวนด้วยซ้ายเกือบครึ่งสนาม บอลโค้งเข้าประตูอย่างแม่นยำ สเปนออกนำ 1-0

น.34 โอกาสที่ชิลี จะไล่ตามตีเสมอสเปน ก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ โอกาสจะแจ้งที่สุดมาจากจังหวะที่ ฌอง โบเซอฌูร์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ได้จิ้มด้วยหัวเกือก บอลผ่านมือ อิเกร์ กาซิยาส ไปแล้ว แต่เข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

น.37 ของพลกระทิงดุ สามารถพังตาข่ายหนีห่างเป็น 2-0 ได้อย่างเด็ดขาด เมื่อ อันเดรส อิเนียสต้า จ่ายบอลให้ ดาบิด บีย่า หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเปิดกลับมาให้ อิเนียสต้า ที่มารอบอลที่หน้าเขตโทษ วิ่งเข้ามาแปด้วยขวา เสียบมุมเข้าไปอย่างเด็ดขาด

น.38 หลังจากที่ฉลองประตูที่ 2 ของสเปนเสร็จ ผู้ตัดสิน มาร์โก โรดริเกซ ตามกลับมาแจกใบเหลืองที่ 2 ให้ มาร์โก เอสตราด้า ที่เล่นนอกเกมใส่ ตอร์เรส ในจังหวะก่อนที่จะได้ประตู ทำให้ชิลี เหลือผู้เล่นในสนามเพียงแค่ 10 คน

เวลาที่เหลือในครึ่งแรก สเปน เป็นฝ่ายครอบครองเกมไว้ได้เกือบทั้งหมด ก่อนที่จะจบครึ่งแรกไป ด้วยสกอร์ที่สเปนนำ ชิลี อยู่ 1-0

ครึ่งหลัง มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือทีมชาติชิลี ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นทีเดียว 2 คนรวด โดยถอด มาร์ค กอนซาเลซ และ ฮอร์เก้ วัลดิเวีย แล้วส่ง  เอสเตบัน ปาเรเดส กับ โรดริโก้ มิยาร์ ลงมาแทน

เปิดฉากครึ่งหลังมาได้เพียงแค่ 2 นาที ชิลี ที่มีผู้เล่นน้อยกว่า สามารถไล่ตีไข่แตกตามมาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ โรดริโก้ มิยาร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมา ปล่อยทีเด็ดด้วยลูกยิงไกลจากหน้าเขตโทษ บอลไปแฉลบขา เกราร์ด ปิเก้ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป

น.55 ส่วนทีมชาติสเปน มีการขยับผู้เล่นบนม้านั่งสำรองบ้าง บิเซนเต้ เดล บอสเก้ นายใหญ่สเปน ตัดสินใจถอด เฟร์นานโด ตอร์เรส ออกมาพัก เลือกส่ง เชส ฟาเบรกาส ลงไปเสริมแดนกลาง

น.63 เกมรุกของสเปน ค่อยๆ เล่น ค่อยๆ นวด รุกบ้าง ผ่อนบ้าง มีโอกาสจากจังหวะที่ อันเดรส อิเนียสต้า ตัดบอลได้จากริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนลากจี้เข้าเขตโทษจนถึงสุดเส้น แล้วเปิดให้เพื่อนตรงกลางประตู แต่เลย ดาบิด บีย่า และ เชส ฟาเบรกาส ที่เติมขึ้นมาอย่างน่าเสียดาย ชิลี เปลี่ยนตัวอีกคน ส่ง ฟาเบียน โอเรยาน่า ลงมาแทน อเล็กซิส ซานเชซ

น.75 สเปน เริ่มผ่อนเกมลงมากแล้ว เปิดช่องให้ ชิลี ได้โอกาสลองส่องไกลจาก เอสเตบัน ปาเรเดส ยิงหลุดกรอบออกไป ส่วน สเปน หลังจากที่ปล่อย ฆาเบียร์ มาร์ติเนซ กองกลางดาวรุ่งลงมาแทน ชาบี อลอนโซ่ ก็ได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ อิเนียสต้า แต่ก็ไม่เข้ากรอบ

ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมเล่นกันแบบประคองเกม ทำให้จบ 90 นาที สเปน เฉือนเอาชนะ ชิลี 2-1 ขึ้นรั้งอันดับ 1 ของกลุ่ม เอช ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ พร้อมทั้งควงแขน ชิลี เข้าไปเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม

**ส่วนผลอีก 1 คู่ สวิตเซอร์แลนด์ ทำได้เพียงแค่เสมอกับ ฮอนดูรัส 0-0

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติชิลี
เคลาดิโอ บราโว่ - เมาริซิโอ อิสล่า, แกรี่ เมเดล, วัลโด้ ปอนเซ่, กอนซาโล่ ฆาร่า - อาร์ตูโร่ วิดาล, มาร์โก เอสตราด้า, มาร์ค กอนซาเลซ (โรดริโก้ มิยาร์ 46) - ฌอง โบเซอฌูร์, อเล็กซิส ซานเชซ (ฟาเบียน โอเรยาน่า 65), ฮอร์เก้ วัลดิเวีย (เอสเตบัน ปาเรเดส 46)
สำรองไม่ได้ใช้
มิเกล ปินโต้, หลุยส์ มาริน - ปาโบล คอนเตรราส, อิสมาเอล ฟูเอนเตส, มาติอัส เฟร์นานเดซ, คาร์ลอส คาร์โมน่า, กอนซาโล่ เฟียร์โร่, โรดริโก้ เตลโย่, อุมเบร์โต้ ซัวโซ่

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติสเปน
อิเกร์ กาซิยาส - เซร์คิโอ รามอส, เกราร์ด ปิเก้, การ์เลส ปูโยล, โจน กัปเดบิล่า - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่ (ฆาเบียร์ มาร์ติเนซ 73) - อันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด บีย่า, เฟร์นานโด ตอร์เรส (เชส ฟาเบรกาส 55)
สำรองไม่ได้ใช้
บิคตอร์ บัลเดส, โฆเซ่ เรน่า - ราอูล อัลบิโอล, การ์ลอส มาร์เชน่า, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ฆวน มานูเอล มาต้า, ดาบิด ซิลบา, เฆซุส นาบาส, เปโดร โรดริเกซ, เฟร์นานโด ยอเรนเต้

ผู้ตัดสิน : มาร์โก โรดริเกซ (เม็กซิโก)

สรุปสถานการณ์ ฟุตบอลโลก 2010 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
อุรุกวัย (อันดับ 1 กลุ่ม เอ) พบกับ เกาหลีใต้ (อันดับ 2 กลุ่ม บี)
เม็กซิโก (อันดับ 2 กลุ่ม เอ) พบกับ อาร์เจนติน่า (อันดับ 1 กลุ่ม บี)
สหรัฐฯ (อันดับ 1 กลุ่ม ซี) พบกับ กานา (อันดับ 2 กลุ่ม ดี)
อังกฤษ (อันดับ 2 กลุ่ม ซี) พบกับ เยอรมัน (อันดับ 1 กลุ่ม ดี)
ฮอลแลนด์ (อันดับ 1 กลุ่ม อี) พบกับ สโลวะเกีย (อันดับ 2 กลุ่ม เอฟ)
ญี่ปุ่น (อันดับ 2 กลุ่ม อี) พบกับ ปารากวัย (อันดับ 1 กลุ่ม เอฟ)
บราซิล (อันดับ 1 กลุ่ม จี) พบกับ ชิลี (อันดับ 2 กลุ่ม เอช)
โปรตุเกส (อันดับ 2 กลุ่ม จี) พบกับ สเปน (อันดับ 1 กลุ่ม เอช)