กองทัพ "ซามูไร" ญี่ปุ่น โชว์ฟอร์มเก่งได้ทีเด็ดจาก 2 ฟรีคิกสุดสะเด่า เอาชนะ "โคนม" เดนมาร์ก 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปตามหลัง "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ แชมป์กลุ่ม ที่เฉือน "หมอผี" แคเมอรูน 2-1

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ประจำวันคืนวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 53 ที่สนามโรยัล บาโฟเกง นเมืองรัสเทนเบิร์ก เป็นการแข่งขันในนัดสุดท้าย ของกลุ่ม อี ระหว่าง"โคนม" ทีมชาติเดนมาร์ก ตัวแทนจากทวีปยุโรป พบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น จ้าวลูกหนังแห่งเอเชีย ซึ่งทั้งสองทีมยังมีลุ้นเข้ารอบ 2 อยู่

เริ่มเกม ญี่ปุ่น ที่มาในชุดเก่งสีน้ำเงินล้วน เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน บุกจากขวาไปซ้าย แต่ในช่วง 10 นาทีแรกเป็นฝั่งทีมชาติเดนมาร์ก ที่พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว นาทีที่ 8 ทีมโคนม ได้โอกาสลุ้นจากลูกเตะมุม โธมัส คาห์เลนเบิร์ก เปิดเข้ามาลุ้น เปอร์ โครลดรุป โฉบขึ้นมาแปออกข้างนิดเดียว

น.13 พอตั้งลำได้บ้างแล้ว ญี่ปุ่น เกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ยูกิ อาเบะ แทงบอลทะลุช่องให้ มาโกโตะ ฮาเซเบะ หลุดเข้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วซัดด้วยขวาเต็มหลังเท้า บอลเฉี่ยวคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.17 ตัวแทนจากทวีปเอเชียอย่างญี่ปุ่น เริ่มทำผลงานได้ดีเป็นระยะๆ จนทำให้แผงกองกลางเดนมาร์ก ต้องทำฟาวล์ตัดเกม กว่าครึ่งสนาม ญี่ปุ่นได้ฟรีคิกระยะร่วม 35 หลา เยื้องไปทางริมเส้นฝั่งขวา เคสุเกะ ฮอนดะ กองหน้าตัวความหวังของทีม ซัดด้วยซ้ายเปรี้ยงเดียว บอลส่ายแหวกอากาศ เสียบมุมไปอย่างสุดสวย ญี่ปุ่น ออกนำ 1-0

น.22 ลูกทีมของ มอร์เทน โอลเซ่น พยายามเซ็ตบอลหาจังหวะเข้าทำอย่างต่อเนื่อง มีจังหวะหวาดเสียวจากลูกเปิดของ คริสเตียน โพลเซ่น หยอดเข้าเขตโทษให้ ยอน ดาห์ล โทมัสสัน ที่พยายามกระดกฮาล์ฟวอลเลย์ แต่โดน เออิจิ คาวาชิม่า นายทวารญี่ปุ่น ปัดทิ้งออกไปได้ทัน

น.30 เกมดำเนินมาถึงครึ่งชั่งโมง ญี่ปุ่น ขยับสกอร์บอร์ดหนีห่างเป็น 2-0 อย่างพลิกความคาดหมาย เมื่อมาได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาตรงกลางประตูพอดี คราวนี้เปลี่ยนมือสังหารมาเป็น ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ กองกลางจอมเทคนิคจากกัมบะ โอซาก้า ปั่นอ้อมกำแพงเสียบมุม ชนิดที่ โธมัส โซเรนเซ่น หมดสิทธิ์ป้องกัน

น.34 เกมของเดนมาร์ก ช็อตไปดื้อๆ เมื่อโดนทีเด็ดจากลูกฟรีคิกถึง 2 ครั้ง 2 คราวทำให้ มอร์เทน โอลเซ่น กุนซือของเดนมาร์ก จำเป็นต้องแก้เกมทันที ด้วยการถอด มาร์ติน ยอร์เกนเซ่น ออก แล้วส่ง ยาค็อบ โพลเซ่น ลงไปเล่นเกมรุก

น.44 เดนมาร์ก ได้โอกาสลุ้นจากลูกฟรีคิกบ้าง เป็น คริสเตียน โพลเซ่น รับบอลที่เพื่อนไหลให้ซัดจังหวะ 2 แต่บอลเข้ามือ เออิจิ คาวาชิม่า จากนั้น ญี่ปุ่น ชิงเล่นเร็วโต้กลับมาทันที เออิจิ คาวาชิม่า แบ็กขวาจอมบุกขึ้นเกมมาทางขวา ก่อนที่จะซัดในเขต บอลถากเสาไปนิดเดียว

จบครึ่งแรก เดนมาร์ก ตามหลัง ญี่ปุ่น 0-2

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นแต่อย่างใด แล้วก็ยังเป็นยอดทีมแดนซามูไร ที่ได้ลุ้นก่อนเมื่อครึ่งหลังเริ่มได้เพียง 4 นาที จากลูกฟรีคิกระยะเกือบครึ่งสนาม ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ หลอกยิงทันที บอลย้อยเข้ากรอบ โธมัส โซเรนเซ่น กระโดดคว้าบอลหลุดมือไปชนเสาเหลี่ยมนอก อย่างน่าหวาดเสียว

น.52 โอกาสลุ้นครั้งแรกในครึ่งหลังของทัพโคนม มาจากจังหวะที่ ลาร์ส ยาค็อบเซ่น แบ็กขวา หยอดบอลเข้าเขตโทษให้ นิคลาส เบนท์เนอร์ โหม่งเช็ดต่อให้ ยอน ดาห์ล โทมัสสัน เก็บบอลลงอย่างนิ่มนวล ก่อนที่จะโดนกองหลังญี่ปุ่น ตามมาสกัดทิ้งได้ทัน

น.59 เดนมาร์ก เริ่มโหมเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ส่งกองหน้าอย่าง โซเรน ลาร์เซ่น ลงมาเพิ่มแล้วถอดกองหลังอย่าง เปอร์ โครลดรุป ออก แนวรุกของเดนมาร์ก เริ่มวูบวาบให้เห็นหลายจังหวะ ยาค็อบ โพลเซ่น ได้จังหวะสับไกระยะ 25 หลา บอลเข้าไปตรงตัว เออิจิ คาวาชิม่า ทุบทิ้งออกไป

น.68 ขุนพลแดนซามูไร หันมาเล่นเกมรับแบบเต็มสตรีม ทำให้การเข้าทำของเดนมาร์ก ค่อนข้างจะทำกันได้ยาก ต้องหันมาใช้บริการการยิงจากแถวสอง คริสเตียน เอริคเซ่น ได้โอกาสซัดจากหน้าเขตโทษ บอลลอยโด่งข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น

น.73 ญี่ปุ่น ใช้จังหวะสวนกลับให้เป็นประโยชน์ แล้วก็มีโอกาสได้จบสกอร์ เมื่อ เคสุเกะ ฮอนดะ ขึ้นบอลมาทางฝั่งขวา เปิดข้ามฟากไปให้ นากาโตโม่ แบ็กซ้ายที่เติมเกมขึ้นสูง ได้แต่งบอลเข้าหน้าเขตโทษ แล้วหาเหลี่ยมยิงด้วยขวา บอลพุ่งเข้าหากรอบประตู โธมัส โซเรนเซ่น รับเอาไว้ได้

น.81 ทีมชาติเดนมาร์ก มามีความหวังอีกครั้ง เมื่อมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ มาโกโตะ ฮาเซเบะ ไปผลัก แดเนียล แอ็กเกอร์ ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ยอน ดาห์ล โทมัสสัน รับหน้าที่สังหารจังหวะแรก โดนเซฟ แต่ตามเข้าไปซ้ำเข้าไปตามมาเป็น 1-2

ช่วงท้ายเกม ญี่ปุ่น มาได้ประตูปิดกล่อง จากลูกยิงจ่อๆ ของ ชินจิ โอกาซากิ กองหน้าตัวสำรอง ให้ทีมเอาชนะเดนมาร์ก 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ไปพบกับ ปารากวัย

ส่วนผลการแข่งขันอีก 1 คู่ในกลุ่มในกลุ่ม อี ฮอลแลนด์ เอาชนะ แคเมอรูน 2-1 คว้าแชมป์กลุ่มไปครอง เข้าไปพบกับ สโลวะเกีย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติเดนมาร์ก
โธมัส โซเรนเซ่น - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, แดเนียล แอ็กเกอร์, เปอร์ โครลดรุป (โซเรน ลาร์เซ่น 56), ไซม่อน โพลเซ่น - คริสเตียน โพลเซ่น, มาร์ติน ยอร์เกนเซ่น (ยาค็อบ โพลเซ่น 43), โธมัส คาห์เลนเบิร์ก (คริสเตียน เอริคเซ่น 63) - เดนนิส รอมเมดาห์ล, ยอน ดาห์ล โทมัสสัน - นิคลาส เบนท์เนอร์
สำรองไม่ได้ใช้
เยสเปอร์ คริสเตียนเซ่น, สเตฟาน อันเดอร์เซ่น - ซิมอน เคียร์, วิลเลี่ยม ควิสต์, ปาทริค ติลิก้า, ดาเนี่ยล เยนเซ่น, โธมัส เอเนโวลด์เซ่น, เยสเปอร์ กรุนชาร์, มิคเคล เบ็คมันน์

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติญี่ปุ่น
เออิจิ คาวาชิม่า - เออิจิ คาวาชิม่า, ยูจิ นากาซาว่า, มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ, โตะ นากาโตโม่ - ยูกิ อาเบะ, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ไดสุเกะ มัตซูอิ (ชินจิ โอกาซากิ 74), ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ, โยชิโตะ โอคูโบะ - เคสุเกะ ฮอนดะ
สำรองไม่ได้ใช้
ไซโกะ นาราซากิ, โยชิคัตสุ คาวางูจิ - อัตสุโตะ อูชิดะ, ไดกิ อิวามาสะ, ยาซูยูกิ คอนโนะ, จูนิจิ อินาโมโตะ, ชุนซุเกะ นากามูร่า, เคนโกะ นากามูร่า, คิโช ยาโนะ, ทากายูกิ โมริโมโตะ, เคจิ ทามาดะ

ผู้ตัดสิน : เจอโรม ดามอน (แอฟริกาใต้)