"อัซซูรี่" อิตาลี แชมป์เก่า ต้องเน้นเต็มสูบหากหวังที่จะเข้ารอบต่อไป โดยจะส่งแนวรุกเต็มสูบในการพบ กับ สโลวาเกีย ในฟุตบอลโลกรอบแรก กลุ่ม เอฟ นัดสุดท้าย โดยอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ปารากวัย พบกับ นิวซีแลนด์ ด้านกลุ่ม อี แคเมอรูน ที่ตกรอบแน่นอนแล้ว พบกับ ฮอลแลนด์ และ เดนมาร์ก ต้องลุ้นเข้ารอบกับ ญี่ปุ่น

ฟุตบอลโลกรอบแรก กลุ่มอี นัดสุดท้าย
แคเมอรูน - ฮอลแลนด์
ถ่ายทอดสด ช่อง 7 เวลา 1.30 น.

สนาม : เคป ทาวน์, เคป ทาวน์

เกมนี้ไม่มีผลต่อการเข้ารอบใดใดแล้ว เนื่องจาก แคเมอรูน ตกรอบสนิท ส่วน ฮอลแลนด์ ผ่านเข้ารอบไปแล้วหลังชนะรวด 2 นัด เหลือแค่ตัดสินว่า "ออรันเย่" จะเป็นแชมป์กลุ่มอีหรือไม่

แคเมอรูน ของ ปอล เลอ กูแอ็น เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพทีม ซึ่งจากการที่จะเป็นนัดสุดท้ายในฟุตบอลโลก ทำให้ เลอ กูแอ็น น่าจะจัดทีมชุดใหญ่เต็มที่ เพื่อพยายามเก็บแต้มให้ได้

เลอ กูแอ็น จะไม่มีการเปลี่ยนทีมมากนัก อเล็กซานเดอร์ ซง มิดฟิลด์ตัวเก่งจากอาร์เซน่อล จะลงตัวจริงต่อหลังถูกดร็อปในเกมแรก เช่นกันกับ ซามูเอล เอโต้ ดาวยิงกัปตันทีม ที่จะลงยืนหน้าเป้า

ส่วนตำแหน่งนายทวาร ซูเลย์มานู ฮามิดู นายทวารวัย 36 ที่ได้ลงสนามในฐานะมือหนึ่งมา 2 เกม อาจจะถูกแทนที่โดย อิดริสส์ คาร์ลอส กาเมนี ประตูจากเอสปันญ่อล ซึ่งเป็นเจ้าของตำแหน่งเดิมตลอด 7 ปีหลัง ให้ลงเป็นตัวจริงบ้าง

ระบบ 4-2-3-1 คาร์ลอส กาเมนี เฝ้าเสา แนวรับมี สเตฟาน เอ็มเบีย, นิโคลัส เอ็นคูลู, เซบาสเตียน บาสซง และ เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ กลางรับใช้ อเล็กซานเดอร์ ซง คู่ เอยอง เอโนห์ ให้ เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป, ปิแอร์ เวโบ และ อาชิลล์ เอมาน่า เดินเกมรุก ส่วน ซามูเอล เอโต้ ค้ำหน้าเป้า

ด้าน เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือทีมกังหันสีส้ม น่าจะมีการเปลี่ยนทีมมากทีเดียว หลังจากเข้ารอบไปเรียบร้อยแล้ว แถมการเน้นเอาผลชนะเพื่อเป็นแชมป์กลุ่ม ก็อาจทำให้ต้องตัดกับของแข็งอย่างแชมป์เก่า อิตาลี ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งมีสิทธิ์สูงในการเข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 กลุ่มเอฟ ด้วย

อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวเก่งจากบาเยิร์น มิวนิค น่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงบ้างแล้ว หลังมีปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าในระหว่างเตรียมทีมลุยบอลโลก แต่ฟิตกลับลงซ้อมตลอดช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา

เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล แบ็กขวา กับ ไนเจล เดอ ยองก์ กลางรับ จะถูกพักแน่นอนหลังจากมีใบเหลืองติดตัว

ที่เหลือน่าจะมีการส่งสำรองลงหลายราย ในระบบ 4-2-3-1 ของถนัด มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ลงเฝ้าเสาต่อ แนวรับเหลือ จอห์น ไฮติงก้า ไว้เป็นหลัก และมี คาลิด บูลาห์รูช, อังเดร ออยเยอร์ และ เอ็ดสัน บราฟไฮด์ ลงเล่นร่วม ขณะที่ มาร์ค ฟาน บอมเมล จะลงตัดเกมคู่ เดมี่ เดอ ซูว์ ให้ อาร์เยน ร็อบเบน ออกสตาร์ทตัวรุกร่วมกับ อิบราฮิม อเฟลลาย และ เอลเยโร่ เอเลีย และมี คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ ยืนหน้าเป้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แคเมอรูน (4-2-3-1) : คาร์ลอส กาเมนี - สเตฟาน เอ็มเบีย, นิโคลัส เอ็นคูลู, เซบาสเตียน บาสซง, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ - อเล็กซานเดอร์ ซง, เอยอง เอโนห์ - เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป, ปิแอร์ เวโบ, อาชิลล์ เอมาน่า - ซามูเอล เอโต้

ฮอลแลนด์ (4-2-3-1) : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก - คาลิด บูลาห์รูช, อังเดร ออยเยอร์, จอห์น ไฮติงก้า, เอ็ดสัน บราฟไฮด์ - มาร์ค ฟาน บอมเมล, เดมี่ เดอ ซูว์ - อาร์เยน ร็อบเบน, อิบราฮิม อเฟลลาย, เอลเยโร่ เอเลีย - คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์

ผู้ตัดสิน : ปาโบล โปโซ่ (ชิลี)

เดนมาร์ก - ญี่ปุ่น
ถ่ายทอดสด ช่อง สสท. 11 เวลา 1.30 น.

สนาม : รอยัล บาโฟเก็ง, รัสเทนเบิร์ก

ทีมชาติเดนมาร์ก จะลงเตะตัดสินชะตากับ ญี่ปุ่น ในเกมสุดท้ายของกลุ่มอี ในสถานการณ์ที่บีบให้ "โคนม" ต้องชนะสถานเดียว เนื่องจากประตูได้-เสีย เป็นรอง หลังจาก เดนมาร์ก แพ้ ฮอลแลนด์ 0-2 กับชนะ แคเมอรูน 2-1 จนผลต่าง -1 ขณะที่ ญี่ปุ่น ชนะ แคเมอรูน 1-0 กับแพ้ ฮอลแลนด์ 0-1 มีผลต่าง 0

มอร์เทน โอลเซ่น กุนซือทีมโคนม มีปัญหาสภาพทีมให้หนักใจ เมื่อแนวรับจำต้องปรับ ซิมอน เคียร์ ปราการหลังตัวเก่งที่เรียกความฟิตได้ทันมาเล่นฟุตบอลโลกหลังเจ็บในระหว่างอุ่นเครื่องกับ แคเมอรูน โดนใบเหลืองต่อเนื่องในเกมกับ ฮอลแลนด์ และ แคเมอรูน เท่ากับครบโควต้า ติดโทษแบนเกมกับ ญี่ปุ่น โดยปริยาย

เคียร์ จะกลับมาได้ในรอบน็อกเอาต์ หากว่าเพื่อนร่วมทีมชนะ ญี่ปุ่น ได้

การขาด เคียร์ จะทำให้ เพอร์ ครอลดรุป เซนเตอร์จากฟิออเรนติน่า ได้โอกาสลงสนามมาแทนที่ โดยยืนคู่กับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ เซนเตอร์ตัวสำคัญจากลิเวอร์พูล

แต่นอกจากจุดนี้แล้วก็ไม่มีปัญหาอีก นิคลาส เบนท์เนอร์ ดาวยิงคนสำคัญจากอาร์เซน่อล หายจากอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบมาลงยิง แคเมอรูน ไปแล้ว หลังต้องเข็นลงตัวจริงเกมแรกแบบไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร

ส่วน ยอน ดาห์ล โทมัสสัน กองหน้ากัปตันทีม จากเฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม ก็ฟิตเต็มที่เช่นกัน ทำให้ โอลเซ่น ไม่น่าจะปรับเกมรุกจากนัดล่าสุด

แต่สำหรับ มาร์ติน ยอร์เกนเซ่น กองกลางตัวเก๋า อาจจะถูกดร็อป หลังจากเล่นแย่ในเกมล่าสุด โดย โอลเซ่น อาจเลือกส่งตัวที่เล่นเกมรับได้ดีกว่าอย่าง โธมัส คาห์เลนเบิร์ก ลงแทน

ทีมโคนมใช้ 4-3-3 ตามเดิม โธมัส โซเรนเซ่น เฝ้าเสา ลาร์ส ยาค็อบเซ่น ยืนแบ็กขวา เซนเตอร์คู่ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ กับ เพอร์ ครอลดรุป แบ็กซ้ายเป็น  ซิมอน บุสค์ โพลเซ่น สามตัวกลางมี คริสเตียน โพลเซ่น, โธมัส คาห์เลนเบิร์ก และ เยสเปอร์ กรุนชาร์ ให้ นิคลาส เบนท์เนอร์ นำเกมรุกร่วมกับ ยอน ดาห์ล โทมัสสัน และ เดนนิส รอมเมดาห์ล

ด้าน ญี่ปุ่น มีสถานการณ์ที่ดีกว่า เดนมาร์ก ชัดเจน แม้จะแต้มเท่ากัน แต่ขอแค่ผลเสมอในทุกสกอร์ ก็จะลอยลำเข้ารอบไปตาม ฮอลแลนด์ ทันที

ทาเคชิ โอกาดะ กุนซือทีมซามูไรสีน้ำเงิน จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีม 11 ตัวจริงจากนัดล่าสุด หลังจากทำผลงานกันได้ดีอยู่แล้ว เท่ากับ ชุนซูเกะ นากามูระ จอมทัพโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส หรือ ทากายูกิ โมริโมโตะ กองหน้าจากคาตาเนีย จะเป็นสำรองต่อไป

ในเกมล่าสุดที่แพ้ ฮอลแลนด์ ไม่มีใบเหลืองหรือแดงเพิ่มเติม จึงไม่มีนักเตะที่ติดโทษแบนเกมนี้ มีแค่ ยูกิ อาเบะ มิดฟิลด์ตัวกลาง ที่โดนเหลืองมาจากเกมแรก ซึ่งต้องระวังจะโดนแบนถ้าผ่านเข้ารอบต่อไปได้

ยาซูยูกิ คอนโนะ แบ็กซ้าย เจ็บในระหว่างเตรียมทีม แต่ก็ฟิตแล้ว ทว่า โอกาดะ จะเปิดทางให้ ยูอิจิ โคมาโนะ จาก จูบิโล่ อิวาตะ ลงต่อเนื่อง หลังทำผลงานน่าพอใจตลอด 2 เกมแรก

โอกาดะ จะยึดระบบ 4-5-1 ตามเดิม เนื่องจากต้องการเน้นรับเหนียวแน่นไม่ให้เสียประตูไว้ก่อน นายประตูเป็น เอจิ คาวาชิมะ กองหลังมี ยูอิจิ โคมาโนะ, ยูจิ นากาซาวะ, มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ และ ยูโตะ นากาโตโมะ อัดกลางแน่นทั้ง มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ, เคซูเกะ ฮอนดะ, ไดสุเกะ มัตสึอิ และ ยูกิ อาเบะ โดยมี โยชิโตะ โอคูโบะ ยืนหน้าเป้า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เดนมาร์ก (4-3-3) : โธมัส โซเรนเซ่น - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, เพอร์ ครอลดรุป,  ซิมอน บุสค์ โพลเซ่น - คริสเตียน โพลเซ่น, โธมัส คาห์เลนเบิร์ก, เยสเปอร์ กรุนชาร์ - ยอน ดาห์ล โทมัสสัน, เดนนิส รอมเมดาห์ล, นิคลาส เบนท์เนอร์

ญี่ปุ่น (4-5-1) : เอจิ คาวาชิมะ - ยูอิจิ โคมาโนะ, ยูจิ นากาซาวะ, มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ, ยูโตะ นากาโตโมะ - มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ, เคซูเกะ ฮอนดะ, ไดสุเกะ มัตสึอิ, ยูกิ อาเบะ - โยชิโตะ โอคูโบะ

ผู้ตัดสิน : เจอโรม ดาม่อน (แอฟริกาใต้) 

ฟุตบอลโลกรอบแรก กลุ่ม เอฟ นัดสุดท้าย
อิตาลี - สโลวาเกีย
ถ่ายทอดสด ช่อง สสท. 11 เวลา 21.00 น.

สนาม : เอลลิส พาร์ค, โจฮันเนสเบิร์ก

มาร์เชลโล่ ลิปปี้ จำเป็นที่จะต้องเอาชนะให้ได้ หากหวังจะเข้ารอบแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือหากเสมอต้องลุ้นให้ นิวซีแลนด์ แพ้ ปารากวัย หรือเสมอเหมือนกันด้วยสกอร์ที่ต่ำกว่าตัวเอง

นัดนี้จะเปลี่ยนระบบการเล่นมาเป็น 4-3-3 โดยยังคงไม่มี จานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่เจ็บหลัง ส่วน อันเดรีย ปีร์โล่ ฟิตสมบูรณ์แล้ว แต่คงเป็นสำรองไปก่อน

ผู้รักษาประตูใช้ เฟเดริโก้ มาร์เค็ตติ เหมือนเดิม แนวรับ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ขนาบข้างด้วย จานลูก้า ซามบร็อตต้า และ โดเมนิโก้ คริสชิโต้

ขยับขึ้นมา เจนนาโร่ กัตตูโซ่ จะถูกส่งลงมาช่วย ดานิเอเล่ เด รอสซี่ กับ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ในแดนกลาง แนวรุก จามเปาโล ปาซซินี่ น่าจะได้ยืนเป็นตัวเป้า แทน อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ที่ยังโชว์ฟอร์มไม่ออก พร้อมมี วินเชนโซ่ ยาควินต้า กับ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ คอยประคองด้านข้าง

ขณะที่ วลาดิเมียร์ ไวส์ ยังมีลุ้นที่จะเข้ารอบเช่นกัน หากพาทีมกำชัยในเกมนี้ และหวังให้ นิวซีแลนด์ ไม่ชนะ ปารากวัย โดยเขาอาจปรับเปลี่ยนบางตำแหน่ง หลังทีมทำผลงานได้ไม่ดีนักใน 2 นัดแรก

ด้วยระบบ 4-4-2 แยน มูช่า ลงเฝ้าเสา มาร์ติน สเคอร์เทล ยืนปราการหลังตัวกลางกับ แยน ดูริก้า แบ็กขวา-ซ้ายเป็น ปีเตอร์ เปคาริค และ มาเร็ค เช็ค

ซเดโน่ สเตอร์บา ปักหลักกลางสนามร่วมกับ มาเร็ค ฮัมซิค ปล่อยให้ลูกชาย วลาดิเมียร์ ไวส์ และ มิโรสลาฟ สต็อช ลากเลื้อยริมเส้น กองหน้าวาง โรเบิร์ต วิตเท็ค จับคู่ล่าตาข่ายกับ สตานิสลาฟ เซสตัค

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

อิตาลี (4-3-3) : เฟเดริโก้ มาร์เค็ตติ; จานลูก้า ซามบร็อตต้า, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, โดเมนิโก้ คริสชิโต้; เจนนาโร่ กัตตูโซ่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่; วินเชนโซ่ ยาควินต้า, จามเปาโล ปาซซินี่, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่

สโลวาเกีย (4-4-2) : แยน มูช่า; ปีเตอร์ เปคาริค, มาร์ติน สเคอร์เทล, แยน ดูริก้า, มาเร็ค เช็ค; วลาดิเมียร์ ไวส์, ซเดโน่ สเตอร์บา, มาเร็ค ฮัมซิค, มิโรสลาฟ สต็อช; โรเบิร์ต วิตเท็ค, สตานิสลาฟ เซสตัค

ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)

ปารากวัย - นิวซีแลนด์
ถ่ายทอดสด ช่อง 3 เวลา 21.00 น.

สนาม : ปีเตอร์ โมกาบา, โพล็อตวาเน่

เคราร์โด้ มาร์ตีโน่ ต้องการอย่างน้อย 1 คะแนนในการผ่านเข้ารอบ แต่เกมนี้จะไม่มี อันโตลิน อัลการาซ ที่เกิดเจ็บข้อเท้าซ้าย ทำให้น่าจะเป็น ฮูลิโอ เซซ่าร์ กาเซเรส ที่ได้ลงแทน และอาจมีการปรับเปลี่ยนบางตำแหน่ง

ฮุสโต้ วีย่าร์ ยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายตามปกติ แนวรับ เปาโล ดา ซิลวา จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ ฮูลิโอ เซซ่าร์ กาเซเรส แบ็กสองข้างใช้ ดาริโอ เวรอส และ เคลาดิโอ โมเรล

เอ็นริเก้ เวร่า, เนสตอร์ ออร์ติโกซ่า และ คริสเตียน รีเวรอส เป็นสามประสานแดนกลาง แนวรุกใช้สูตรเดิมมี เนลสัน วัลเดซ, โรเก้ ซานตา ครูซ และ ลูคัส บาร์รีออส ลงล่าตาข่ายร่วมกัน

ด้าน ริคกี้ เฮอร์เบิร์ต จะพาทีมเข้ารอบทันทีหากเอาชนะในแมตช์นี้ได้ โดยไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงทีมแต่อย่างใด หลังทำผลงานกันได้ค่อนข้างดี นั่นทำให้ เกล็น มอสส์ ผู้รักษาประตูมือ 1 ที่พ้นโทษแบนต้องนั่งสำรองไปก่อน เช่นเดียวกับ ทิม บราวน์ ที่หายเจ็บแล้วก็ตาม

ด้วยระบบ 3-4-3 นายทวารเป็น มาร์ค พาสตัน ที่โชว์ฟอร์มได้เหนียวหนึบเหมือนเดิม แนวรับที่เหลือประกอบด้วย วินสตัน รีด, ไรอัน เนลเซ่น และ ทอมมี่ สมิธ

อีวาน วิเชลิช จะยังคงถูกดันขึ้นมาคุมเกมแดนกลางกับ ไซม่อน เอลเลียตต์ เปิดทางให้ เลโอ เบอร์ตอส และ โทนี่ ล็อคเฮด ทำเกมริมเส้น แนวรุก เชน สเมลท์ซ เป็นตัวเป้า พร้อมมี คริส คิลเล่น กับ รอรี่ ฟัลล่อน ประคองด้านข้าง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

ปารากวัย (4-3-3) : ฮุสโต้ วีย่าร์; ดาริโอ เวรอน, เปาโล ดา ซิลวา, ฮูลิโอ เซซ่าร์ กาเซเรส, เคลาดิโอ โมเรล; เอ็นริเก้ เวร่า, เนสตอร์ ออร์ติโกซ่า, คริสเตียน รีเวรอส; เนลสัน วัลเดซ, โรเก้ ซานตา ครูซ, ลูคัส บาร์รีออส

นิวซีแลนด์ (3-4-3) : มาร์ค พาสตัน; วินสตัน รีด, ไรอัน เนลเซ่น, ทอมมี่ สมิธ; เลโอ เบอร์ตอส, ไซม่อน เอลเลียตต์, อีวาน วิเชลิช, โทนี่ ล็อคเฮด; คริส คิลเล่น, เชน สเมลท์ซ, รอรี่ ฟัลล่อน

ผู้ตัดสิน : ยูชิ นิชิมูระ (ญี่ปุ่น)