7M SPORTS เพิ่มเป็นไซต์โปรด 
สิงโตกอดคอมะกันลิ่ว16ทีมเดโฟ-โดโลแวนสวมบทฮีโร่
23/06/2010  ที่มา  sportfm
ขนาด: A A A

เวิลด์คัพนัดสุดท้ายกลุ่มซีมันหยด! อังกฤษ ถีบ สโลวีเนีย ร่วง!หลัง เดโฟ ซัดตุงฝ่ายเฉือนชัย สโลวีเนีย 1-0 ส่วนอีกคู่ โดโนแวน สร้างปาฏิหารย์ซัดประตูชัยช่วงทดเจ็บส่ง "พญาอินทรี" เฉือน แอลจีเรีย 1-0 ลิ่วรอบ 16 ทีม ฐานะทีมแชมป์ของกลุ่มซี ส่วน "สิงโตคำราม" ตามเข้ารอบเป็นที่ 2

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ฉบับกาฬทวีป ประจำค่ำคืนที่ 23 มิถุนายน เป็นการขับเคี่ยวในนัดสุดท้ายของกลุ่มซี แข่งขันพร้อมกันทั้งสองคู่ ในเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

อังกฤษ - สโลวีเนีย

ที่ เนลสัน แมนเดล่า เบย์ สเตเดี้ยม เมือง พอร์ท อลิซาเบธ   ระหว่าง อังกฤษ อันดับ 3 ของกลุ่ม แข่ง 2 นัด มี 2 คะแนน  พบกับ สโลวีเนีย จ่าฝูงของกลุ่ม แข่ง 2 นัด มี 4 คะแนน

มัทยาซ เค็ค นำทัพ สโลวีเนีย โชว์ฟอร์มเยี่ยม เก็บ 4 แต้มจากสองนัดแรก ทำให้ประตูในการผ่านเข้ารอบเปิดกว้าง ซึ่งจะเป็นการผ่านเข้ารอบ 2 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศด้วย หลังจากผลงานล่าสุดไม่น่าจำจำนัก ทั้งการ ตกรอบแรกยูโร 2000 และฟุตบอลโลก 2002 เนจช์ เปชนิค หอกสำรองบาดเจ็บกระดูกข้อเท้าแตกในนัดก่อนที่เสมอ สหรัฐอเมริกา 2-2 ปิดฉากทัวร์นามเนต์แน่นอนแล้ว แต่ได้ มาร์โก ซูเลอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักที่บาดเจ็บซี่โครงจากจังหวะปะทะ โจซี่ อัลติดอร์ ผ่านความฟิตกลับมาได้ทันเวลา
 
ส่วน "น้าหงิก" ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือสิงโตคำราม ต้องพบกับขวากหนามมากมาย ทั้งผลงานในสนามและเรื่องราวนอกสนามของลูกทีม ซึ่งเกมนี้ อังกฤษ ต้องพยายามคว้าชัยให้ได้เพื่อโอกาสในการเข้ารอบต่อไป กุนซือชาวอิตาเลี่ยนยังยึดระบบการเล่น 4-4-2 ต่อไป ทำหูทวนลมไม่สนใจไม่สนเสียงเรียกร้อจากลูกทีมให้ปรับไปใช้ 4-2-3-1 เกมนี้  เจมี่ คาร์ราเกอร์ ติดโทษแบน 1 นัดหลังโดนใบเหลืองมาทั้งสองนัดที่ผ่านมา จัดการส่งแม็ทธิว อัพสัน จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ จอห์น เทอร์รี่ ส่วนแนวรุกคงต้องถอด เอมิล เฮสกี้ นั่งสำรอง พร้อมกับ อารอน เลนน่อน แล้วเปิดทางให้ เจอร์เมน เดโฟ กับ เจมส์ มิลเนอร์ ลงโม่แข้งแทน โดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด น่าจะมีบทบาทในการสนับสนุนเกมรุกมากขึ้น

โวลฟ์กัง สตาร์ค ผู้ตัดสินจากเยอรมันเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันครึ่งแรก สโลวีเนีย ในชุดเหย้าสีขาวทั้งชุด เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเล่นก่อน และขึ้นเกมรุกเข้าใส่ "สิงโตคำราม" ที่วันนี้สวมชุดเหย้าสีแดง (สถิติใส่ลงแข่ง 5 นัดคว้าชัยรวด)

น.9 ของการแข่งขัน เวย์น รูนี่ย์ กระชากบอลทำเกมรุกทางฝั่งซ้าย ก่อนตักไปที่เสาไกลบอลกำลังจะถึง เจมส์ มิลเนอร์ แต่ โบยาน โยคิช ยังเร็ววิ่งมาโขกทิ้งออกหลังไปได้ ถัดมา 4 น. แลมพาร์ดได้ซัดฟรีคิกจากระยะกว่า 38 หลา บอลข้ามกำแพงพุ่งเข้ากรอบ ทว่า  ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ไม่พลาดล้มตัวตะครุบบอลติดมือ

น.18 จากจังหวะชลมุนหน้าเขตโทษ รูนี่ย์ วิ่งโฉบรับบอลก่อนตัดสินใจกระชากไปทางขวาแล้วสับไกเต็มแรงทันที บอลแฉลบแนวรับสโลวีเนียออกหลัง

น.20 สโลวีเนีย ได้ลุ้น! จากจังหวะวางบอลยาวจากหน้าประตู แอชลี่ย์ โคล สกัดพลาด บอลทะลักมาถึง  ซลาตัน ลูบิยานคิช หลุดเข้าไปซัดเต็มเท้าขวา เดวิด เจมส์ไม่พลาด ทุบออกมาได้

น.23 สิงโตคำรามลั่นสนาม! แบรี่ ครองบอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะไหลไปทางกราบขวาให้ มิลเนอร์ เปิดเข้ามาที่หน้าปากประตู เจเมน เดโฟ วิ่งเข้ามาชาร์ทด้วยเท้าขวา ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายให้ อังกษ ขึ้นนำ 1-0 และถือเป็นประตูที่ 12 ของเจ้าตัวด้วย ถัดมา 4 น. มิลเนอร์ ได้ตั้งป้อมเปิดจากฝั่งขวาอีกครั้ง เดโฟ กำลังจะเข้าชาร์ทที่จุดนัดพบ แต่ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช อ่านเกมดีพุ่งออกมาปัดด้วยมือขวา บอลกระดอนมาเข้าทางปืน แลมพาร์ด วอลเลย์ตูมเดียวด้วยขวา บอลพุ่งเหินข้ามคาน

อย่างเหนียว!น.30 รูนี่ย์ ไหลบอลให้ เจอร์ราด วิ่งเข้ามาแปด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งกำลังจะเสียบเสาด้านขวา  ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช พุ่งปัดไว้ได้ ก่อนที่จะตะครุบบอลไว้ได้หวุดหวิด ถัดมา 4 น. มิลเนอร์ หลุดไปทางกราบขวาอีกครั้ง ได้โยนมาที่หน้าประตู มิโซ่ เบร็คโก้ ตามสกัดออกหลังก่อนที่บอลจะถึง รูนี่ย์ ที่ง้างเท้ารอสับไกอยู่

น.40 โบยาน โยคิช รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม หลังไปเสียบสกัดหนักใส่ เกล็น จอห์นสัน ก่อนหมดเวลา  4 น. สโลวีเนีย มีลุ้นจากฟรีคิกหน้าเขตโทษ ระยะประมาณ 38 หลา วอลเตอร์ เบียร์ซ่า ซัดเต็มข้อด้วยเท้าขวา เดวิด เจมส์ ทุบบอกมาได้แบบเฉียดฉิว ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดจับลำหน้า มิลิโวเย่ โนวาโควิช จบครึ่งแรก อังกฤษ ขึ้นนำ สโลวีเนีย 1-0

เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้เพียง 3 น. เกล็น จอห์นสัน ไปดับเครื่องชนใส่ บอสต์ยาน เซซ่าร์ โวลฟ์กัง สตาร์ค เป่าฟาวล์ พร้อมควักใบเหลืองแจกทันที น.50 รูนี่ย์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายไหลถวายพานให้ เดโฟ ชาร์ทบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกลำหน้า

น.52 สโลวีเนีย ได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา วอลเตอร์ เบียร์ซ่า รับหน้าที่สังหารด้วยขวา บอลพุ่งเข้ากรอบ เดวิด เจมส์ ยืนตำแหน่งดีรับเข้าซองสบาย  ถัดมา 3น. สาวกทรีไลอ้อนส์เกือบได้เฮ! เกล็น จอห์นสัน ยกบอลทะลุเข้ากรอบเขตโทษ ให้ รูนี่ย์ หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเต็มเท้าขวาบริเวณจุดโทษ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ปัดปลายมือขวา บอลพุ่งชนเสาจังเบ้อเร่อ

น. 65 วอลเตอร์ เบียร์ซ่า ได้กดเรียดด้วยเท้าขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ เดวิด เจมส์ ยืนตำแหน่งดีรับเข้าซองไว้ได้ จากนั้น 4 น. เบียร์ซ่า คนเดิม ซัดฟรีคิกระยะประมาณ 32 หลา บอลพุ่งเหินข้ามคานไปไกล

น.71 รูนี่ย์ ที่ยังทำประตูไม่ได้ในเวิลด์คัพหนนี้ ถูกเปลี่ยนตัวออก และเป็น โจ โคล ได้รับโอกาสลงสนามแทน หลังจากนั้น อังกฤษ สามารถทำเกมรุกเข้าใส่ สโลวีเนีย อย่างหนักแต่ก็ยังไม่สามารถพังประตูเพิ่มได้ และน.85 คาเปลโล่ ปรับทัพอีกครั้ง ส่ง เอมิล เฮสกี ลงสนามแทน เดโฟ

น.86 แอชลี่ย์ โคล จ่ายให้ เจอร์ราด ทางริมเส้นฝั่งขวาไหลทะลุช่องให้ โจ โคล หลุดเข้าไปซัดด้วยขวา ทว่าบอลกลับเหินข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น จากนั้นไม่มีทีมสร้างจังหวะลุ้นเพิ่มเติมได้ จบการแข่งขัน อังกฤษ เฉือนเอาชนะ สโลวีเนีย ไปได้ 1-0

จากผลการแข่งขัน ทำให้ อังกฤษ เข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มซี แข่ง 3 นัด มี 5 คะแนน ถีบสโลวีเนีย   ที่มี 4 คะแนน ร่วงตกรอบทันที เพราะผลอีกคู่ที่แข่งพร้อมกันปรากฏว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายเฉือนชัย แอลจีเรีย ไปได้ 1-0 ส่งให้ "พญาอินทรี" คว้าแชมป์กลุ่ม มีเพิ่มเป็น 5 คะแนนเท่าทัพ "สิงโตคำราม" แต่ผลต่างประตูได้เสียเหนือกว่า 2 ลูก

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : เจอร์เมน เดโฟ

ผู้ตัดสิน : โวลฟ์กัง สตาร์ค จากเยอรมัน

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
อังกฤษ : 4-4-2
ผู้รักษาประตู เดวิด เจมส์ - เกล็น จอห์นสัน, แม็ตธิว อัพสัน, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล- เจมส์ มิลเนอร์,  แฟร้งค์ แลมพาร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่  สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตันทีม)  , เวย์น รูนี่ย์,  เจอร์เมน เดโฟ

สโลวีเนีย  : 4-4-1-1
ผู้รักษาประตู ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช - มิโซ่ เบร็คโก้, มาร์โก ซูเลอร์, บอสต์ยาน เซซ่าร์, โบยาน โยคิช, อเล็กซานเดอร์ ราโดซาฟเยวิช, โรเบิร์ต โคเรน (กัปตันทีม) , อันดราซ เคิร์ม, วอลเตอร์ เบียร์ซ่า - ซลาตัน ลูบิยานคิช, มิลิโวเย่ โนวาโควิช

สหรัฐอเมริกา - แอลจีเรีย

ที่ ลอฟตัส แฟร์สเฟลด์ สเตเดี้ยม เมือง พริทอเรีย เกมระหว่าง สหรัฐอเมริกา รองจ่าฝูงของกลุ่ม ที่มีคะแนนเท่ากับ "สิงโตคำราม" แต่ผลต่างประตูได้เสียเหนือกว่า 2 ลูก ปะทะ แอลจีเรีย บ๊วยของกลุ่ม ที่ลงสนาม 2 นัด เก็บได้เพียง 1 แต้ม

เริ่มเกมมาได้ไม่นาน ในนาทีที่ 5 นาที เจย์ เดเมอริต จับบอลพลาดบริเวณเขตอันตรายหน้ากรอบเขตโทษของตนเอง ทำให้ ราฟิค เฌบบูร์ ดาวเตะ แอลจีเรีย ฉกบอลไป ก่อนจัดการวอลเล่ย์ไปชนคานอย่างจัง

น.12 ฮัสซัน เย็บด้า สตาร์ของ แอลจีเรีย โดนใบเหลืองแรกของเกม หลังไปสกัด นักเตะ อเมริกา ในการสวนกลับเร็ว

น.20 สหรัฐอเมริกา มาเกือบได้ประตู ขึ้นนำ จากจังหวะขลุกขลิกหน้าประตู และเป็น เฮอร์กูเลซ โกเมซ ที่ส่งบอลเข้าตุงตาข่าย แต่ทว่า ผู้กำกับเส้น ยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้า ทั้งที่จากภาพช้า สามารถเห็นได้ชัดว่า เฮอร์กูเลซ โกเมซ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

น.34 แลนดอน โดโนแวน ทำเกมขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนไหลบอลให้กับ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ จับจังหวะแรกห่างตัวไป แต่ก็ยังไหลบอลไปให้ โจซี่ อัลติดอร์ ซัดด้วยขวา ระยะประมาณ 6 หลา ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

เริ่มต้นครึ่งหลัง สหรัฐฯ เปลี่ยนเอา เบนนี่ ไฟล์ฮาเบอร์ ลงมาเล่นแทน เฮอร์กูเลซ โกเมซ เพื่อหวังจะทำประตูขึ้นนำ แอลจีเรีย ให้ได้

น. 57 สหรัฐฯ น่าจะได้ประตูนำก่อนเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ โจซี่ อัลติดอร์ ลากบอลไปทางฝั่งซ้ายก่อนปาดเข้ากลางให้ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ซัดไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

น.68 โจซี่ อัลติดอร์ ได้โขกเหน่งๆ แต่ไปตรงตัว ราอิส อูเฮบ เอ็มบูลี่ พลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย

เกมดำเนินมาถึง ช่วงท้ายเกม นาทีสุดท้าย ทำท่าว่าจะจบลงที่สกอร์ 0-0 แต่ทว่า สหรัฐฯ มาได้ประตูขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ โจซี่ อัลติดอร์ ลากบอลขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนปาดเข้ากลางให้ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ที่เติมเกมขึ้นมายิงแต่ว่า ไปติดตัว ผู้รักษาประตู กระเด้งออกมา ไปเข้าทางปืน แลนดอน โดโนแวน ที่วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ เข้าประตูไป ส่งผลให้ สหรัฐอเมริกา ขึ้นนำ แอลจีเรีย เหลือเชื่อ 1-0

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดให้สัญญาณหมดเวลา จบเกม สหรัฐอเมริกา เอาชนะ แอลจีเรีย ไปอย่างน่าเหลือน่าเชื่อ 1-0 ลิ่วเข้ารอบ 16 ทีม ในฐานะแชมป์กลุ่มซี

โดยในรอบ16ทีมสุดท้าย  สหรัฐอเมริกา ต้องพบกับ ทีมอันดับ2กลุ่มบี (26มิ.ย.) และ อังกฤษ จะดวลแข้งกับแชมป์ของกลุ่มดี (27มิ.ย.) ต่อไป

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : แลนดอน โดโนแวน

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
สหรัฐอเมริกา  : 4-4-2
ผู้รักษาประตู : ทิม ฮาวเวิร์ด - สตีฟ เชรุนโดโล่, โจนาธาน บอร์นสไตน์(ดามาคัส บีสลี่ย์ น.81, เจย์ เดเมอริต, คาร์ลอส โบคาเนกร้า - แลนดอน โดโนแวน, ไมเคิ่ล แบร๊ดลี่ย์, มัวริซ เอดู, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ - โจซี่ อัลติดอร์, เฮอร์กูเลซ โกเมซ

แอลจีเรีย : 4-3-2-1 

ผู้รักษาประตู : ราอิส อูเฮบ เอ็มบูลี่ - มายิด บูเกร์ร่า, ราฟิค ฮัลลิเช่, อันตาร์ ยาเฮีย, นาดีร์ เบลฮัดจ์ - คาริม มัตมูร์, ฮัสซัน เย็บด้า, เมดี้ ลาเชน, คาริม ซิยานี่, ฟูเอด คาดีร์ - ราฟิค เฌบบูร์

เมือง&สนามบอล
ตารางคะแนน
  • A
  • B
  • C
  • D
  • E
  • F
  • G
  • H
    หากไม่มีการระบุเวลาการแข่งขันใด ให้ยึดเวลาของ GMT+0800 เป็นหลักเท่านั้น
    เวบไซด์นี้สงวนลิขสิทธิ์โดย www.7mth.com Copyright © 2003 -