7M SPORTS เพิ่มเป็นไซต์โปรด 
สิงโตไม่ฟื้นเจ๊าแอลจีเรีย0-0 ลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้ายกรุ๊ปซี
19/06/2010  ที่มา  sportfm
ขนาด: A A A

ยังฝืดไม่เลิกสำหรับทัพ "สิงโตคำราม" อังกฤษ เมื่อทำได้เพียงแค่ เสมอ 0-0 กับ แอลจีเรีย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก นัดที่ 2 ของ กลุ่ม ซี ลุ้นหืดเข้ารอบในนัดสุดท้าย


การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ประจำวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 53 ที่สนาม กรีน พอยท์ สเตเดี้ยม ในเมืองเคป ทาวน์ เป็นการแข่งขันนัดที่ 2 ในกลุ่ม ซี ระหว่าง "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชน ตัวแทนจาทวีปยุโรป อดีตแชมป์โลกเมื่อปี 1966 พบกับ ทีมชาติแอลจีเรีย ตันแทนจากทวีปแอฟริกาใต้

เริ่มเกม เป็นทางฝั่งทีมชาติแอลจีเรีย ที่มาในชุดเขียวล้วน ได้เขี่ยบอลก่อน บุกจากขวาไปซ้าย ส่วนทางทีมสิงโตแห่งเกาะอังกฤษ มาในชุดเก่งสีขาวล้วน ได้โอกาสลุ้นก่อนทันทีในนาทีที่ 4 จากลูกยิงไกลของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม แต่ก็ไปติดเซฟผู้รักษาประตูของแอลจีเรีย

น.17 รูปเกมของทั้งสองทีมยังดูไม่ชัดเจนในจังหวะเข้าทำ แต่นับตั้งแต่เริ่มเกมเป็นต้นมาเป็นทีมชาติแอลจีเรีย ที่ต่อบอลทำเกมกันได้เหนือกว่าอังกฤษ มามีโอกาสลุ้นในจังหวะที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ เคลียร์บอลไม่ขาด คาริม ซิยานี่ เก็บบอลได้ทางฝั่งซ้ายเปิดย้อนกลับเข้าหน้าปากประตู คาร์ราเกอร์ พยายามสกัดบอลแต่ผิดเหลี่ยม บอลปลิ้นเข้าหากรอบประตู โชคดีที่ยังไปตรงตัว เดวิด เจมส์

น.30 ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง อังกฤษ เพิ่งจะมีจังหวะเซ็ตเกมสวยๆ ขึ้นมาสร้างความกดดันให้แอลจีเรีย จังหวะที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางตัวสำคัญของทีม ได้บอลจากกลางสนาม ก่อนที่จะทำชิ่งกับ เวย์น รูนี่ย์ เก็บบอลบริเวณหน้าเขตโทษ แล้วยิงปั่นโค้งกะให้เข้าเสาสอง แต่เบาเกินไป ราอิส เอ็มโบห์ลี่ รับไว้สบาย

น.33 กองทัพสิงสามตัว เริ่มที่จะจับจังหวะเกม และสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ อารอน เลนน่อน ขึ้นเกมรุกมาทางฝั่งขวา แล้วเปิดเข้าเขตโทษ โดน มัดยิด บูเกอร์ร่า เคลียร์ได้แต่ไม่ขาด บอลตกอยู่ในเขตโทษ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เก็บบอลได้แต่งหนึ่งจังหวะ แล้วยิงด้วยซ้าย ยังไม่ผ่านมือ ราอิส เอ็มโบห์ลี่

น.35 ทางฝั่งทีมรองแชมป์แอฟริกันเนชั่นส์ คัพ ปีล่าสุดอย่างแอลจีเรีย ใช้จังหวะสวนกลับตอบโต้ขึ้นมา คาริม ซิยานี่ เพลเม็คเกอร์ตัวเก่งของทีม ขึ้นเกมรุกมาทางด้านซ้ายลากตัดเข้าหากรอบเขตโทษแล้วซัดด้วยขวา บอลเฉี่ยวเสาแรกออกไป

น.39 จังหวะเจาะเข้าทำของอังกฤษ ค่อนข้างที่จะทำได้ยาก เพราะแนวรับของแอลจีเรีย ยืนตำแหน่งกันได้อย่างเป็นระบบ ต้องหันมาใช้การยิงไกลดูบ้าง แกเร็ธ แบร์รี่ สบโอกาสเห็นช่องยิงจากระยะ 20 หลา กดเปรี้ยงด้วยซ้าย บอลยังไปเข้ามือ ราอิส เอ็มโบห์ลี่ ทวารแอลจีเรีย

ช่วงท้ายครึ่งแรก อังกฤษ ได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ เวย์น รูนี่ย์ แต่ไปตรงตัวผู้รักษาประตู ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอย่างจืดชืด 0-0

ครึ่งหลังเริ่มต้น ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นแต่อย่างใด เกมในช่วงต้นยังเข้าอีหรอบเดิม คือจังหวะสุดท้ายยังจบไม่ลงเช่นเดิม แต่เป็นอังกฤษ ที่ได้ลุ้นเข้าทำก่อนในนาทีที่ 55 คาริม ซิยานี่ ทำบอลลั่นโดน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ฉกบอลได้จ่ายให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด หลุดไปทางด้านขวา แต่จังหวะเปิดย้อนหลังเพื่อนไปหมด พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

น.60 แอลจีเรีย เล่นชนิดที่ว่าไม่มีเกรงกลัวศักดิ์ศรีอดีตแชมป์โลกปี 1966 แม้แต่น้อย จนกระทั่งมาได้ฟรีคิกระยะอันตรายเยื้องกรอบเขตโทษไปทางฝั่งซ้าย คาริม ซิยานี่ เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ อันตาร์ ยาเฮีย วิ่งเข้ามาซัดตูมเดียวไม่เข้ากรอบ

น.63 เกมไม่ดีขึ้น ฟาบิโอ คาเปลโล่ เลยต้องเปลี่ยนแท็คติกด้วยการเปลี่ยนผู้เล่นสำรองคนแรก ส่ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ลงไปลากเลื้อยทางริมเส้นแทน อารอน เลนน่อน ที่เริ่มหายออกจากเกม

น.70 "สิงโตคำราม" อังกฤษ พยายามบุกกดดันเข้าใส่เรื่อยๆ มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำ 2 จังหวะซ้อนๆ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จ่ายบอลทะลุแผงหลังให้ เอมิล เฮสกี้ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวา พยายามเปิดเข้ากลางให้ รูนี่ย์ ที่ยืนรออยู่โล่งๆ แต่โดนกองหลังแอลจีเรีย สกัดออกหลัง ได้เตะมุมต่อเนื่อง แกเร็ธ แบร์รี่ เปิดมาให้ เจอร์ราร์ด ขึ้นโขกคนเดียว เข้าซอง ราอิส เอ็มโบห์ลี่

น.74 ทั้งสองทีมปรับเกมอีกครั้ง โดย อังกฤษ ส่ง เจอร์เมน เดโฟ ลงสนามไปแทน เอมิล เฮสกี้ ส่วนทางฝั่งแอลจีเรีย ส่ง ฌาเมล อับดูน ลงไปแพ็กแดนกลางแทนที่ รายอัด บูเดบูซ

น.88 ทีมชาติอังกฤษ หลังจากส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงไปเป็นไพ่ใบสุดท้ายแต่ก็ยังเจาะไม่เข้าอยู่ดี ต้องหันมาใช้บริการการยิงไกลอีกครั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ซัดหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

จบ 90 นาที ทีมชาติอังกฤษ ทำได้เพียงแค่ เสมอกับ ทีมชาติแอลจีเรีย ไป 0-0 ทำให้มีเพียงแค่ 2 แต้มจากการลงสนาม 2 นัด ส่วน แอลจีเรีย เก็บได้ 1 แต้ม รั้งบ๊วยในกลุ่ม ซี


รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติอังกฤษ
เดวิด เจมส์ - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - อารอน เลนน่อน (ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ 63), แฟร้งค์ แลมพาร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่ (ปีเตอร์ เคร้าช์ 84), สตีเว่น เจอร์ราร์ด - เวย์น รูนี่ย์, เอมิล เฮสกี้ (เจอร์เมน เดโฟ 74)
สำรองไม่ได้ใช้
โรเบิร์ต กรีน, โจ ฮาร์ท - แม็ตธิว อัพสัน, เลดลี่ย์ คิง, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, สตีเฟ่น วอร์น็ค, โจ โคล, ไมเคิ่ล คาร์ริค, เจมส์ มิลเนอร์

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติแอลจีเรีย
ราอิส เอ็มโบห์ลี่ - มัดยิด บูเกอร์ร่า, อันตาร์ ยาเฮีย, นาดีร์ เบลฮัดจ์ - ฟูอัด คาดีร์, ฮัสซัน เย็บด้า (ฌาเมล เมสบาห์ 88), เมดี้ ลาเชน, ราฟิค อัลลิเช่ - รายอัด บูเดบูซ (ฌาเมล อับดูน 74), คาริม ซิยานี่ (อั๊ดเลเน่ เกวดิอูร่า 80) - คาริม มัตมูร์
สำรองไม่ได้ใช้
ลูเนส กาอูอุย, ฟาอูซี่ ชาอูชี่ - อาบิบ เบลลาอิด, อับเดลกาเดอร์ ไลฟาอุย, คาร์ล เมดยานี่, ยาซิด มันซูรี่, ราฟิค เฌบบูร์, ราฟิค ไซฟี, อับเดลกาเดอร์ เกซซัล

ผู้ตัดสิน : ราฟชาน อิร์มาตอฟ (อุซเบกิสถาน)

เมือง&สนามบอล
ตารางคะแนน
  • A
  • B
  • C
  • D
  • E
  • F
  • G
  • H
    หากไม่มีการระบุเวลาการแข่งขันใด ให้ยึดเวลาของ GMT+0800 เป็นหลักเท่านั้น
    เวบไซด์นี้สงวนลิขสิทธิ์โดย www.7mth.com Copyright © 2003 -