เยอรมัน 0-1 เซอร์เบีย

"อินทรีเหล็ก" ล่วง เหลือแค่ 10คน โคลเซ่ โดนเหลือง 2ใบติด แถม "โพลดี้" ดันมาพลาดจุดโทษอีก ทำให้ เซอร์เบีย ได้โอกาสทำเกมอย่างต่อเนื่อง โยวาโนวิชจัดให้หนึ่งตุง ทำให้เซอร์เบีย ชนะ เยอรมัน 1-0 ทำให้กลุ่ม D มีสามคะแนนเท่ากันทั้งสามทีม (เยอรมัน,เซอร์เบีย,กาน่า)

การแข่งขันฟุตบอลโลก (เวิลด์ คัพ) 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ณ. สนามเนลสัน แมนเดล่า เบย์ สเตเดี้ยม เป็นการแข่งขันรอบที่สอง ของกลุ่ม ดี ระหว่าง "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน พบกับ เซอร์เบีย สำหรับคู่นี้เริ่มดวลแข้งกันเวลา 18.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ทีมชาติ เยอรมันนำทัพโดย โยอัคคิม เลิฟ กุนซือหนุ่มละอ่อนวัย 49 ปี คุมทัพ "อินทรีเหล็ก" ลงเล่นในเกมทุกระดับชั้น เส้นทางแดนกาฬทวีปในนัดแรก เขาทำผลงานออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว โดยการเอาชนะออสเตรเลียไปถึง 4-0 เลยทีเดียว ซึ่งยังเป็นทีมเดียวที่สามารถยิงประตูได้เยอะที่สุดในรอบแรกของศึก เวิลด์คัพ'10 ครั้งนี้อีกด้วย ใครๆหลายคนบอกว่า เขาคือผู้สืบทอดของ "คลิ้นซี่" เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ อดีตบุนเดสเทรนเนอร์ที่เคยพา เยอรมัน คว้าอันดับ 3 เมื่อฟุตบอลโลกปี 2006 ที่ผ่านมานั้นเอง

ทางด้าน เซอร์เบีย มีกุนซืออย่าง ราโดเมีย อันติช เฮดโค้ชวัย 61 ปี ที่สามารถสร้างผลงานชิ้นโบแดงให้กับเซอร์เบีย ในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นการคุมทัพในระดับชาติครั้งเเรก แต่ก็ทำได้เกินความคาดหมาย ฟุตบอลโลกครั้งนี้ จัดว่าเป็นเครื่องมือพิสูจน์ฝีมือของเขาโดยแท้ เซอร์เบีย ที่นัดแรกแพ้ให้กับ กาน่า 0-1 ทำให้สถานการณ์ของทีมยังคงกินไข่อยู่ อาจจะทำให้การแข่งขันนัดนี้ ราโดเมีย อันติช น่าจะเปิดเกมบุกเข้าแลกกับ "อินทรีเหล็ก" อย่างแน่นอน

เริ่มครึ่งเวลาแรก

เริ่มเกมมาได้แค่ไม่เท่าไหร่ เซอร์เบีย มีโอกาสทักทายก่อนจากจังหวะของ ซดราฟโก้ คุซมาโนวิช สับไกลยิงเต็มเท้า แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากนั้น เยอรมัน ได้โอกาสบ้างจาก ซามี่ เคดิร่า ยิงไปติดบล็อคแผงกองหลังของเซอร์เบีย ออกหลังไป

น. 7 เนมันย่า วิดิช โหม่งสกัดบอลจากหน้าประตูไม่ขาด บอลลอยมาเข้าทางของ ลูคัส โพดอลสกี้ ได้จังหวะส่องไกลทันทีบอลพุ่งเบียดเสาออกหลังไปนิดเดียว เกือบจะเป็นลูกขึ้นนำของทางฝั่งเยอรมัน เลยทีเดียว

เกมดำเนินมา น.12  มิโรสลาฟ โคลเซ่ ก็มาโดนใบเหลืองใบแรกของเกม จากจังหวะการฟาวล์ในจังหวะแรกของเยอรมัน จากนั้น น.16 โคลเซ่ ได้โอกาสหลุดเดี่ยวหลุดแผงกองหลังแล้ว แต่ก็ดันไปเป็นการล้ำหน้า ในจังหวะนี้

เกมผ่านมา 21 นาทีเท่านั้น มีใบเหลืองจากกรรมการ (อัลเบร์โต้ อันเดียโน่ มัลเลนโก้) 4 ใบเลยทีเดียว (ซามี่ เคดิร่า, มิโรสลาฟ โคลเซ่) , (อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช)

น.30 เยอรมันก็มาส่งลูกเข้าตาข่ายไปจาก มิโรสลาฟ โคลเซ่ โชว์ทักษะหลบกองหลัง ก่อนที่จะซัดไปทางเสาสอง แต่ก็มีเสียงนกหวีด ดังอีกครั้ง เนื่องจากจังหวะนี้เป็นลูกล้ำหน้าไป พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

น.33 เซอร์เบีย มาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลได้เลยทีเดียว บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ เป็น อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ บรรจงปั่นเต็มที่ บอลลอยโค้งข้างกำแพง ถาดเสาออกข้างไปนิดเดียวเท่านั้น เกือบเป็น เซอร์เบียที่จะได้ประตูออกนำไปก่อน

น.37 มิโรสลาฟ โคลเซ่ มาโดนใบเหลืองใบที่สองอีกครั้ง เนื่องจากเข้าสัดทางด้านหลัง ของ เดยัน สแตนโกวิช อย่างเห็นได้ชัด กรรมการไม่รีรอ ควักใบเหลืองใบที่สองทันที ทำให้ เยอรมัน เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเท่านั้น

น.38 เป็นทาง เซอร์เบีย ที่ได้ลุกขึ้นเฮก่อน จากจังหวะของ มิลอส คราซิช เลี้ยงกระชากขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนที่จะเปิดมาให้ มิลาน โยวาโนวิช ที่ยืนอยู่คนเดียวเท่านั้น ซัดจ่อๆ หน้าประตูเข้าไปแบบสบายๆ ทำให้เซอร์เบียออกนำไปก่อน 1-0

น. 45 เยอรมัน น่าจะมาได้ประตูตีเสมอจากการยิงของ ซามี่ เคดิร่า อัดเต็มข้อไปบอลพุ่งอย่างแรงชนคานแทบสั่น หมดโอกาสลุ้นไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นไม่นานกรรมการก็เป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกไป

หมดครึ่งเวลาแรก เยอรมัน 0-1 เซอร์เบีย

เริ่มครึ่งเวลาหลัง

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เป็นทางเยอรมัน ที่มีโอกาสลุ้นประตูก่อนจาก ลูคัส โพดอลสกี้ ได้โอกาสสับไกยิงไปเสาไกล แต่บอลลอยโด่งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

น.57 ลูคัส โพดอลสกี้ มีโอกาสหลุดแผงหลังกับดักล้ำหน้า ของเซอร์เบีย ก่อนที่จะได้โอกาสยิงหักมุม บอลผ่านมือ วลาดิเมียร์ สตอยโกวิช ไปแล้ว แต่บอลดันออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

น.58 ลูคัส โพดอลสกี้ ได้โอกาสอีกครั้ง จังหวะหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนตัดสินใจยิงไปเสาไกลบอลออกหลังไป หลังจากนั้นไม่นาน มีโอกาสอีกครั้งก็ยิงข้ามคานออกหลังไป เกมผ่านมากว่า 15 นาที เยอรมัน โหมบุกอย่างหนักหน่วงเพื่อหวังลูกตีเสมอ

น.59 เนมันย่า วิดิช พลาดท่าไปทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ กรรมการไม่รอช้า เป่าเป็นจุดโทษทันที ทั้งยังควักเหลืองให้ด้วย และเป็น โพดอลสกี้ ที่จะมาสังหาร แต่ก็ทำให้ กองเชียร์ เยอรมัน ผิดหวังไปอย่างสุดซึ้ง เมื่อยิงไปทางด้านซ้ายเข้าทางของ วลาดิเมียร์ สตอยโกวิช โชว์ซุปเปอร์เซฟอย่างเหนือชั้น ทำให้ เยอรมันยังคงตาม เซอร์เบียอยู่ 1-0

น.66 เป็นทาง เซอร์เบีย ที่เกือบมาได้ประตูที่สอง จากจังหวะของ มิลอส คราซิช เลี้ยงบอลจี้ขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะเปิดบอลมาให้ มิลาน โยวาโนวิช ซัดเต็มแรงบอลพุ่งไปชนเสาเต็มๆ หมดลุ้นลูกที่สองอย่างน่าเสียดาย

น.74 เมื่อ นิโกล่า ซิกิช ของเซอร์เบีย ได้โอกาสหาจังหวะขึ้นโขกแบบเต็มๆ หัว ผ่านมือของ มานูเอล นอยเออร์ ไปแล้ว แต่บอลดันไปชนคานบนกระเด้งออกหลังไป เกือบจะได้เป็นลูกนำห่างของเซอร์เบียแล้ว

น.82 โอกาสอีกครั้งของ "ทัพอินทรีเหล็ก" เมื่อ โพดอลสกี้ หาโอกาสลองส่องไกล หน้ากรอบเขตโทษอีกครั้ง บอลพุ่งเลียดพื้นไหลออกทางเสาสองไป เป็นโอกาสเกือบ 3-4 ครั้งแล้ว ของ โพดอลสกี้ แต่ก็ยังจบสกอร์ไม่ได้

เกมดำเนินมาถึงช่วงท้ายเกม เยอรมัน ที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่า กับเป็นฝ่ายครองบอลบุกเพื่อทำประตูอย่างต่อเนื่อง แต่ผลสุดท้ายก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เซอร์เบีย เฉือนเอาชนะ เยอรมัน ไปได้ 1-0

จบการแข่งขัน เยอรมัน 0-1 เซอร์เบีย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เยอรมัน ระบบ : 4-3-2-1
ผู้รักษาประตู : มานูเอล นอยเออร์
กองหลัง : ฟิลิปป์ ลาห์ม(กัปตันทีม), แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, อาร์เน่ ฟรีดริช, โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์(มาริโอ โกเมซ น.77)
กองกลาง : บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ซามี่ เคดิร่า, โธมัส มุลเลอร์(มาร์โก้ มาริน น.70), เมซุต โอซิล(คาเคา น.70), ลูคัส โพดอลสกี้
กองหน้า : มิโรสลาฟ โคลเซ่

เซอร์เบีย ระบบ : 4-5-1
ผู้รักษาประตู : วลาดิเมียร์ สตอยโกวิช
กองหลัง : บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เนเวน ซูโบติช, เนมันย่า วิดิช, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ
กองกลาง : มิลอส คราซิช, เดยัน สแตนโกวิช(กัปตันทีม), มิลาน โยวาโนวิช(ราโดซาฟ เปโตรวิช น.75), มิลอส นินโควิช(โกจ์โค คาชาร์ น.70), ซดราฟโก้ คุซมาโนวิช(ราโดซาฟ เปโตรวิช น.79)
กองหน้า : นิโกล่า ซิกิช