บอลโลก 2010 มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์อีกครั้ง เมื่อ "ตราไก่" ฝรั่งเศส แชมป์โลก 1 สมัย โดน "จังโก้" ไล่กดเอาชนะ 2-0 มีแววตกรอบสูง ในกลุ่ม เอ

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกใต้ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน 53 ที่สนามปีเตอร์ โมคาบา สเตเดี้ยม ในเมือง โพล็อควาเน่ เป็นการแข่งขันนัดที่ 2 ในกลุ่ม เอ ระหว่าง "ตราไก่" ทีมชาติฝรั่งเศส ตัวแทนจากยุโรป และอดีตแชมป์เมื่อปี 1998 พบกับ "จังโก้" เม็กซิโก ตัวแทนจากโซนอเมริกา

เริ่มเกม ฝรั่งเศส เป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อน มาในชุดน้ำเงินล้วน บุกจากซ้ายไปขวา ได้โอกาสลุ้นก่อนในนาทีที่ 6 เมื่อมาได้ฟรีคิกระยะไกลร่วมๆ 40 หลา เป็น ฟร้องค์ ริเบรี่ รับหน้าที่หลอกยิงทันที บอลพุ่งตรงเข้าหากรอบประตู ออสการ์ เปเรซ ถึงกับต้องออกแรงปัดทิ้งออกไป

น.8 ทั้งสองทีมผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสุดมันตั้งแต่เริ่มเสียงนกหวีด กลับมาเป็นฝั่ง เม็กซิโก ที่มาในชุดเก่งเสื้อเขียว กางเกงขาว ได้โอกาสลุ้นทำประตูบ้าง จากลูกตักยาวจากกลางสนามของ ราฟาเอล มาร์เกซ ข้ามหัวแผงหลังฝรั่งเศส ให้ คาร์ลอส เวล่า หลุดเข้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเลือกยิงฮาล์ฟวอลเล่ย์ข้ามคานออกไป ทั้งที่มีเพื่อนรออยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าถึง 2 คน

น.18 ทีมชาติเม็กซิโก ทำเกมรุกเร็วขึ้นมาทางขวาโดย ริคาร์โด้ โอโซริโอ ก่อนที่จะเปิดขวางสนามข้ามมาถึง คาร์ลอส ซัลซิโด้ แบ็กซ้ายเติมเกมรุกขึ้นมา แต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้ายระยะ 25 หลา บอลถากเสาไกลออกไปหวุดหวิด

น.27 แม้ว่าทีมตราไก่ จะเป็นฝ่ายครองเกมไว้ได้เหนือกว่าแต่เป็นทีมชาติเม็กซิโก ที่หาจังหวะเข้าทำได้จะแจ้งกว่า มีลุ้นจากจังหวะที่ คาร์ลอส ซัลซิโด้ ขึ้นเกมรุกมาทางฝั่งซ้ายแล้วแตะบอลลอดหว่างขา บาการี่ ซาญ่า เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะยิงบอลฉีดยาพุ่งเข้ากรอบ แต่ไปตรงตัว อูโก้ โยริส ปัดออกไปได้

น.32 เม็กซิโก จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นเมื่อ คาร์ลอส เวล่า กองหน้าดาวรุ่งจากอาร์เซน่อล ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า เล่นต่อไม่ไหว ฮาเบียร์ อกีร์เร่ กุนซือจังโก้ ต้องส่ง ปาโบล บาร์เรร่า ลงสนามไปแทน

น.40 เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ยังเป็นโอกาสลุ้นเข้าทำของทีมจังโก้ เม็กซิโก ที่มีโอกาสจะแจ้งกว่า แผงหลังฝรั่งเศส พากันเคลียร์บอลไปขาด บอลตกอยู่บริเวณหน้าเขตโทษ กิเยร์โม ฟรังโก้ ตวัดกลับเข้าไปหน้าเขตโทษอีกครั้ง โจวานนี่ โดส ซานโตส พักอกเอาบอลลง ก่อนที่จะยิงด้วยซ้าย บอลถากเสาไปนิดเดียว

จบครึ่งแรก ฝรั่งเศส กับ เม็กซิโก ยังเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง เรย์มงด์ โดเมเน็ค เฮดโค้ชทีมชาติฝรั่งเศส จัดการปรับเกมเปลี่ยนตัวผู้เล่นทันที ด้วยการส่ง อองเดร-ปิแอร์ ฌีญัก กองหน้าจากสโมสรตูลุส ลงสนามมาแทน นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่เล่นไม่ดีในครึ่งแรกออกไปพัก

น.54 เกมของฝรั่งเศสเริ่มดีขึ้นตามลำดับ กระทั่งได้ดอกาสลุ้นครั้งแรก เมื่อ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ตัดสินใจลักไก่ยิงด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัด บอลพุ่งส่ายเกือบจะเสียบเสาอยู่แล้ว ทว่า ออสการ์ เปเรซ ยังเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้น เม็กซิโก ส่ง ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ''ชิชาริโต้'' ลงไปเสริมเกมรุกแทน เอฟราอิน ฮัวเรซ

น.64 หลังจากที่อยู่ในสนามมาได้ 10 นาที ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ''ชิชาริโต้" ศูนย์หน้าตัวใหม่ของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็แผลงฤทธิ์ทันที เมื่อรับบอลจาก เคราร์โด้ ตอร์ราโด้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแตะบอลหนี อูโก้ โยริส ยิงเข้าไปโล่งๆ ให้ทีม "จังโก้" ออกนำทีมตราไก่ไปแล้ว 1-0

น.69 เรย์มงด์ โดเมเน็ค ส่งไพ่อีกใบลงมาแก้เกม มาติเยอ วาลบูเอน่า ตัวรุกจากโอลิมปิค มาร์กเซย กลายเป็นตัวสำรองรายที่สองของฝรั่งเศส ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน ซิดเน่ย์ โกวู

น.74 ฝรั่งเศส เริ่มบุกเข้าใส่อย่างหนัก เพื่อหวังทวงประตูคืน จังหวะการต่อบอลขึ้นเกมรุกอย่างสวยงาม เริ่มจาก อาบู ดิอาบี้ ในแดนกลางจ่ายให้ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ที่หน้าเขตโทษ จ่ายต่อให้กับ อองเดร-ปิแอร์ ฌีญัก ทางฝั่งขวา แล้วซัดทันที บอลลอยโด่งข้ามคาน

น.79 สถานการณ์ของทีมชาติฝรั่งเศส กลับต้องย่ำแย่ลงเมื่อ เอริก อบิดัล เสียเหลี่ยมให้กับ ปาโบล บาร์เรร่า ไปเสียบล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสิน คาลิล อัล กามดี้ จากซาอุดิอาระเบีย ไม่ลังเลเป่าเป็นจุดโทษให้ เม็กซิโก เคาห์เตม็อค บลังโก้ กองหน้าสำรองตัวเก๋าวัย 37 ปี ซัดเสียบมุมอย่างสวยงาม เม็กซิโก หนีห่างเป็น 2-0

ช่วงท้ายเกม

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติฝรั่งเศส
อูโก้ โยริส - บาการี่ ซาญ่า, วิลเลี่ยม กัลลาส, เอริก อบิดัล, ปาทริซ เอวร่า (กัปตันทีม) -  เฌเรมี่ ตูลาล็อง, อาบู ดิอาบี้ - ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ซิดเน่ย์ โกวู (มาติเยอ วาลบูเอน่า 69) , ฟร้องค์ ริเบรี่ - นิโกล่าส์ อเนลก้า (อองเดร-ปิแอร์ ฌีญัก 46)
สำรองไม่ได้ใช้
สตีฟ ม็องดองด้า, เซดริก การ์รัสโซ่ - อองโตนี่ เรเวแยร์, มาร์ค ปลานุส, กาแอล คลิชี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, อาลู ดิยาร์ร่า, โยอันน์ กูร์กกุฟฟ์, ฌิบริล ซิสเซ่, เธียร์รี่ อองรี่

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติเม็กซิโก
ออสการ์ เปเรซ - ริคาร์โด้ โอโซริโอ, เอ็คตอร์ โมเรโน่, ฟรานซิสโก้ โรดริเกซ, คาร์ลอส ซัลซิโด้ - ราฟาเอล มาร์เกซ, เอฟราอิน ฮัวเรซ (ฮาเวียร์ ''ชิชาริโต้'' เอร์นานเดซ 55), เคราร์โด้ ตอร์ราโด้ - โจวานนี่ โดส ซานโตส, คาร์ลอส เวล่า (ปาโบล บาร์เรร่า 32), กิเยร์โม ฟรังโก้ (เคาห์เตม็อค บลังโก้ 62)
สำรองไม่ได้ใช้
กิเยร์โม โอชัว, หลุยส์ เอร์เนสโต้ มิเชล - พอล อกีลาร์, จอนนี่ มากัลย่อน, ฮอร์เก้ ตอร์เรส, อันเดรส กวาร์ดาโด้, อิสราเอล คาสโตร, อดอลโฟ่ เบาติสต้า, อัลเบร์โต้ เมดิน่า

ผู้ตัดสิน : คาลิล อัล กามดี้ (ซาอุดิอาระเบีย)